วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

บทที่ ๘ ตัวร้ายจากอาเจะห์

ผมเจอ คีย์แมนโทน ก่อนใครอื่น
สุบิน หัวหน้าเซฟตี้เป่านกหวีดเรียกแถว ผมยืนพูดในท่าเดิมเหมือนทุกวันบอกให้ทุกคนขยับตัวให้ห่างกัน ๑ ช่วง
แขน คนงานมีมากกว่า ๑๐๐ มองดูแล้วเหมือนกองกำลังย่อมๆ ผมเริ่มต้นด้วยคำพูดที่ฟังเข้าใจง่ายว่า ก็หวังว่า
สำนักงานของเราคงปลอดภัยไม่ถูกไฟไหม้ ไฟไหม้โซโย ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไรแต่ผมเดาเอาไว้ก่อนว่า
การเดินสายไฟทีสะเพร่า อาจทำให้ไฟลัดวงจรได้ ดังนั้น พวกเราต้องเข้างวดกวดขัน ดูกันให้ดี ผมโยนเรื่อง
ไปให้อุบัติเหตุทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอก...เพราะโทนได้บอกข่าวนี้แล้วไง
ผมพูดถึงประโยคนี้ แถวทั้งแถวมองไปที่สำนักงานกลางสนามของ "โซโย" ซึ่งในตอนนี้ไม่มีเหลือแม้แต่หลัง
เดียวพวกคนงาน "โซโย" ดูสับสนวุ่นวาย
ทว่า...โรงแยกแก๊สทั้งโรง ทำประหนึ่งไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้น คนงานของบริษัทต่างๆทำงานตามปกติ ไม่นานก็มี
ข่าวออกมาว่า ตำรวจสรุปแล้วเกิดจากอุบัติเหตุ นี้คือตัวอย่างเหตุร้ายที่เกิดขึ้นให้กระทบจิตใจยากที่จะลืม
ตอนบ่ายของวันนั้น ผมเดินไปตรวจงานด้านทิศเหนือ พบคีย์แมนโทนกำลังดึงสายเชื่อมเพื่อที่จะย้ายเอาไปติดตั้ง
อีกแห่งผมตบไหล่โทนด้วยความสนิทสนม คนงานอีกกลุ่มกำลังง่วนอยู่กับงาน เสียงเครื่องปั่นไฟ เสียงเครื่อง
จักรทำงาน ทำให้บรรยากาศทีจะมีความเลวร้าย กลับเข้าสู่สภาพปกติ โทนมองดูหน้าผม ปล่อยมือจากสายเชื่อม
แล้วเดินเข้ามายืนข้างหน้าห่างผมไม่เกินเมตร เอ่ยปากบอกเรื่องใหม่เบาๆ
"นายหัว...ตอนนี้ พวกดอเยาะ มันสั่งตัวร้ายมาจาก "อาเจะห์" มากกว่า ๓๐ คนแล้วนะ มันคงก่อกวน
รุนแรงยิ่งขึ้น.."
"มันมาถึงแล้วหรือยัง.." ผมถาม โทนตอบว่า "เพิ่งผ่านแดนเข้ามา..."
"เออ ขอบใจมากโทน รู้แล้วก็ไม่ทราบว่าจะมีประโยชน์อะไร ทำได้อย่างเดียวคือหนักใจแทนประเทศชาติ ตัว
เราก็แค่นี้"
พูดจบ ผมเดินเลยเขาไป ปล่อยให้เขาทำงานด้วยความสบายใจ
หลังจากเลิกงาน ผมนั่งเปิดดูแผนที่ในห้องพัก ตรวจดูสถานที่ตั้งของ"จังหวัดอาเจะห์" ของประเทศอินโดนีเซีย
พบว่าเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่บนเกาะใหญ่ติดกับมาเลเซีย เยื้องมาทางประเทศไทย พวกอาเจะห์เป็นกบฏ มีกอง
กำลังต่อสู้กับรัฐบาลเพื่อจะแบ่งแยกดินแดน อินโดนีเซียส่งทหารเข้าไปปราบชนิดเลือดหยดติ๋ง พวกโจรแบ่งแยก
ดินแดนอาเจะห์มีอาวุธร้ายมากมาย ไม่รู้ไปขนมาจากไหน พวกอาเจะห์คือหอกข้างแคร่ของอินโดนีเซีย
ประเทศอินโดนีเซียเขาไม่ยอม
ตอนที่ผมทำงานอยู่กัวลาลัมเปอร์ ที่บริษัท "ตาลาม คอร์ปปอเรชั่น" ผมรู้จักคนงาน
อาเจะห์มากกว่า ๕๐ คน ทำงานร่วมกับคนไทยด้วยนิสัยใจคอที่ดี แต่คนเหล่านี้เป็นอริกับ คน
อินโดนีเซียด้วยกันสาเหตุเนื่องมาจากเชื้อสายชาวอาเจะห์ เป็นเชื้อสายมลายู จึงต้องการแยกรัฐอิสลามใหม่
ผมพอจะรู้เรื่องราวของพวกอาเจะห์ แต่ไม่เคยได้ข่าวว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับปัตตานี
วันนี้โทนบอกว่าตัวร้ายจาก "อาเจะห์" ยกกำลังมาช่วย "ดอเยาะ"
ถ้าเป็นแบบนี้ความเลวร้ายนับวันแต่จะขยาย
ผมถือโอกาสขณะทำงาน เปิดดูแผนที่ประเทศไทย แล้วดูเลยลงไปทางตอนใต้ เห็นเนื้อที่แล้ว ก็ใจหาย แผ่นดิน
ใต้สุดด้านทางฝั่งอ่าวไทย ซึ่งเป็นผืนดินเดียวกันกับประเทศมาเลเซีย ใต้ไทยลงไป เป็นอีกแผ่นดินหนึ่ง
ที่มีเชื้อสายเดียวกันกับคนไทยในยะลา ปัตตานี นราธิวาส คนมาเลเซียที่ผูกพันกับ ๓ จังหวัดภาคใต้มากที่
สุด แผ่นดินนั้นได้แก่รัฐกลันตัน
ความจริงแล้ว ประเทศมาเลเซียมีพื้นที่ภูมิศาสตร์เป็นเกาะ แต่ละเกาะ จะมีความใหญ่โตจนเกือบไม่ใช่เกาะ
เช่น เกาะซาราวัค เป็นต้น
ส่วนที่เป็นที่ตั้งของเมืองหลวง และอีกหลายจังหวัด รวมทั้งรัฐกลันตันนั้น เป็นผืนดินผืนเดียวกับปลายแหลมของ
ประเทศไทย เส้นพรมแดนระหว่างไทยกับมาเลเซีย เป็นเส้นแบ่งเขตโดยอาศัยแม่น้ำเล็กๆก็มี เอาภูเขาไฟ
เป็นเส้นแบ่งเขตก็มี ไทยกับมาเลเซีย จึงเป็นประเทศมี "แผ่นดิน" ติดกัน ในส่วนที่เป็นเมืองหลวงของ
มาเลเซียตั้งอยู่บนแหลมทองของประเทศไทย

ไม่มีความคิดเห็น: