ปี พ.ศ. ๒๕๐๑
สิ่งหนึ่งที่คนไทยต้องยอมรับความจริงว่า ชาวปัตตานี และจังหวัดอื่น เช่นชาวยะลา นราธิวาส เป็นต้นผู้คนส่วน
ใหญ่ร้อยละ ๗๕ ถึง ๘๒ เปอร์เซ็นต์ มีเชื้อสายมลายู ซึ่งได้อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทยซึ่งเราได้ให้
ความรู้สึกว่าเป็นคนไทยด้วยกัน
ชาวไทยเชื้อสายมลายู มีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกับคนไทยทุกชนเผ่า
และเราต้องยอมรับความจริงอีกเช่นกันว่า ชาวไทยเชื้อสายมลายูได้เป็นกบฏด้วยความกล้าหาญมายาวนาน ไม่
หวั่นเกรงอาญา ไม่กลัวความตาย พวกเขาได้สืบทอดอุดมการณ์อย่างต่อเนื่อง เกาะติดเป็นพวงเดียวกัน ไม่
เคยปล่อยให้ว่างเว้นเลย
พวกเขาได้พัฒนาองค์ความรู้ อันมีทั้งยืนอยู่บนรากฐานที่เป็นจริง และการปั้นแต่งเสแสร้งแกล้งทำตลอดทั้งการ
สร้างมุมมองให้เกริกก้องขึ้นในโลกอิสลาม พวกเขาได้รับความสำเร็จ ในการอาศัยร่มเงาของศาสนาอิสลาม
เป็นทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อการแบ่งแยกดินแดน
หนังสือเล่มสำคัญยิ่งเล่มหนึ่งได้ถูกสร้างขึ้นชื่อว่า "รวมแสงแห่งสันติ" เขียนเป็นภาษามลายู แล้วแปลเป็นภาษา
ไทยเขียนโดย อามีน โต๊ะมีนาล ตีพิมพ์ในปี พ.ศ. ๒๕๐๑
หนังสือเล่มนี้ กล่าวหารัฐบาลร้อยแปดพันประการ พร้อมกับได้ยกย่องสรรเสริญนักรบชั้นแนวหน้าของเขาโดย
เฉพาะได้ยกย่อง "หะยีสุหลง อับดุลกาเดร์" ว่าเป็นยอดวีรบุรุษของชาวมลายูในประเทศไทย
ปี พ.ศ. ๒๕๐๓ อามีน โต๊ะมีนาล ได้พิมพ์หนังสือใหม่อีกเล่มหนึ่ง ชื่อ "ประวัติรัฐมลายูปัตตานี" หนังสือเล่ม
หลังนี้กล่าวว่าดินแดนแถบนี้ทั้งหมดเป็นของมลายูมาก่อน ดังนั้นทุกคนที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ในดินแดนนี้ ย่อมมีสิทธิถือ
สัญชาติมลายู
ใครให้พวกเขาถือสัญชาติไทยก็ถือไป แต่ในใจไม่ยอมรับการเป็นคนไทย
หนังสือทั้งสองเล่ม ได้ถูกตีพิมพ์แจกจ่ายไปตามหมู่บ้านครบทุกครัวเรือน บางครัวเรือนมีมากถึง ๓ - ๔ เล่ม
หลังจากนั้น ก็ได้จัดตั้งกองกำลังขึ้นในตำบลต่างๆ มีหัวหน้ารับผิดชอบ กระจายกันออกไป สร้างความสับสน
อลหม่าน ราชการไทยเข้าไม่ถึงหมู่บ้านมาตั้งแต่บัดนั้น
ปี พ.ศ. ๒๕๐๓ ปีเดียวกันกับหนังสือ"ประวัติรัฐมลายูปัตตานี" ถูกตีพิมพ์ขึ้น แล้วแจกจ่ายชาวบ้านไปจนทั่ว เป็น
ปีที่จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัตน์ส่งคนงานชาวอีสานลงไปช่วยเหลือการกรีดยาง ปลูกต้นยาง พวกโจรปัตตานีจำเป็น
ต้องยอมรับคนงานจากอีสาน เพราะความที่ขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก แต่ในขณะเดียวกัน โจรปัตตานีเริ่ม
ปลุกระดมไปตามหมู่บ้าน กระทำการแข็งข้อให้รัฐบาลเห็นจะจะ
ปี พ.ศ. ๒๕๐๔ รัฐบาลสืบทราบมาว่า โจรแบ่งแยกดินแดนจะก่อการร้ายขึ้น โดยจะยึดที่ทำการของรัฐบาลและ
สถานที่ราชการต่างๆ โดยจะยึดพร้อมกันใน ๔ จังหวัด คือยะลา ปัตตานี นราธิวาส และจังหวัดสตูล รัฐบาล
จึงส่งกำลังลงไปจับกุมบุคคลต้องสงสัยได้จำนวนมาก แล้วเอาตัวขึ้นมาสอบสวนที่กรุงเทพฯ
รัฐบาลสอบสวนอยู่ไม่นานก็ปล่อยตัวทั้งหมด ก่อนปล่อยตัวกลับ ได้อบรมให้ความรู้และความเข้าใจ แล้ว "มอบ
เงิน" ให้คนละมากๆ ซึ่งก็รู้กันในหมู่โจรว่าเป็นการซื้อใจพี่น้องคนไทยเชื้อสายมลายูมีข่าวว่าพวกโจรปัตตานีพา
กันหัวเราะงอหาย รับเงินด้วยความสนุกสนานบางคนยังได้รับเงินเป็นเดือนอีกต่างหาทางฝ่ายรัฐบาลสมัยนั้น
คงคิดว่าได้ทำดีที่สุดแล้ว โดยมีคำสั่งให้เก็บและทำลายหนังสือ ๒ เล่มที่ "อามีนโต๊ะมีนาล" เขียนขึ้น
รัฐบาลไม่รู้ดอกว่า หนังสือทั้งสองเล่มนั้น ไม่ต้องถือติดมืออีกแล้ว เพราะถ้อยคำทั้งหลายได้ถูกจานลงในหัวใจ
และกลายเป็นบทบัญญัติให้ปฏิบัติตาม พวกเขาจึงพากันทำลายตามคำสั่ง และการถูกสั่งให้ทำลายหนังสือทั้งสอง
เล่มดังกล่าว กลับยิ่งก่อให้เกิดความเกลียดชังหนักยิ่งขึ้น
จึงกล่าวได้ว่า หนังสือปลุกระดมที่แกร่งกล้าที่สุดของโจรปัตตานี คือ หนังสือทั้ง ๒ เล่มนี้
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น