ปชป.ดันตั้งนครอิสลาม
โพสต์ทูเดย์ — อดีต ส.ส.ปชป.ชง รูปแบบปกครองพิเศษชายแดนภาคใต้ เลียนแบบมาเลเซีย
นายพีรยศ ราฮิมมูลา อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์และอดีตอาจารย์ด้านรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวว่า กลุ่ม ส.ส.ในจังหวัดชายแดนภาคใต้เตรียมจะเสนอรูปแบบการปกครองในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในลักษณะโครงสร้างพิเศษเพื่อกระจายอำนาจบริหารราชการในพื้นที่
นายพีรยศ กล่าวว่า จะเสนอโครงสร้างดังกล่าวต่อที่ประชุมในเวที ยุทธศาสตร์การแก้ปัญหา พัฒนา ชายแดนใต้ ระหว่างวันที่ 14-15 ก.ค.ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นประธาน ซึ่งจัดที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
“แนวคิดการกระจายอำนาจลงสู่พื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ควรจะเป็นไปในลักษณะเดียวกันกับรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย โดยจะมีมุขมนตรีทำหน้าที่เสมือนนายกรัฐมนตรีประจำรัฐ ขณะเดียวกันสุลต่านประจำรัฐ ก็จะทำหน้าที่ดูแลงานด้านพิธีการต่างๆ ซึ่งรูปแบบนี้จะไม่ใช่การปกครองตนเองหรือแบ่งแยกดินแดน แต่เรียกว่าเป็นการปกครองเฉพาะพื้นที่” นายพีรยศ กล่าว
นายพีรยศ กล่าวอีกว่า รูปแบบดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้จริงเพียงแค่การปรับโครงสร้างการบริหารราชการในระดับท้องถิ่นและแก้ไขกฎหมายบางข้อ โดยเฉพาะการเพิ่มบทบาทและโครงสร้างรวมถึงยกระดับของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดให้มีความชัดเจนมากขึ้น
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจะยังมีอยู่เหมือนเดิมและจะทำหน้าที่ฐานะตัวแทนรัฐบาลกลาง มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลข้าราชการในภูมิภาค รวมถึงงานพระราชพิธีต่างๆ ส่วนงานการเมืองให้เป็นหน้าที่ของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
ด้านนายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผวจ.นราธิวาส กล่าวว่า ขอให้โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามทุกแห่งไปสอบตรวจประวัติอุสตาซทุกคน เพื่อให้มั่นใจว่าอุสตาซไม่เป็นฝ่ายตรงข้ามและให้ถือว่าโรงเรียนอิสลามบูรพา เป็นตัวอย่างแหล่งซ่องสุมโจรก่อการร้ายจึงขออย่าให้เกิดขึ้นในพื้นที่อีก
“ฝ่ายความมั่นคงยังคงมีข้อมูลว่าโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามในพื้นที่ จ.นราธิวาส หลายโรงเรียนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุหรือเป็นปอเนาะ สีแดง แต่หลักฐานยังไม่ชัด จึงขอเตือนผู้บริหารและอุสตาซทุกแห่งอย่าไปยุ่งเด็ดขาด” ผวจ.นราธิวาสกล่าว
ทั้งนี้ ผวจ.นราธิวาส ได้เชิญตัวแทนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานราธิวาส เขต 1 ผู้บริหารโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในพื้นที่ 13 อำเภอ จ.นราธิวาส ทั้ง 3 เขต เพื่อชี้แจงเรื่องการถอนใบอนุญาตโรงเรียนปอเนาะ
ด้าน พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ขณะนี้สามารถควบคุมผู้ต้องหาจากการเข้าตรวจค้นทั้งหมดรวม 356 คน
วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2550
วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2550
จดหมายจากครูใต้
เรื่อง ขอยืนยันทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดนี้ต่อไป
ดิฉันเป็นคนไทยธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่เคยชื่นชม
นับถือแนวความคิดของคุณและติดตามการทำงานของคุณมาช้านาน
ดิฉันเชื่อในความตั้งใจดีของคุณ
นานมาแล้วที่ดิฉันบอกใครๆว่าท่านเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีสุด
เหมาะสมที่สุด และยังคิดเช่นนั้นอยู่
แต่วันนี้ดิฉันและคุณมีความเชื่อในสถานการณ์ภาคใต้ที่ต่างกัน
ดิฉันไม่เคยมีอคติกับใครรวมทั้งคุณ
ดิฉันถือว่าเราต่างคนต่างมีความเชื่อ
เลยขอเรียนว่า
ทำไมถึงมีความเชื่อที่ต่างจากคุณ
ที่เห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความผิดความเลวของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ
ที่ไม่เข้าใจวัฒนธรรมของคนในพื้นที่ (คงต้องรวมถึงดิฉันที่เป็นข้าราชการครูด้วย )
ดิฉันขอเริ่มจากสิ่งที่ตัวเองเห็นเมื่อเป็นครูภาคใต้มา 35 ปี
1. ชาวบ้านแท้ เป็นคนซื่อแต่เชื่อผู้นำอย่างหูหนวก ตาบอด
ผู้หญิงขยันและอดทนอย่างเหลือเชื่อ ( เคยถามคนที่ไม่เคยคลุมหัวฮิญาบ
ว่าทำไมเดี๋ยวนี้ต้องคลุม เธอบอกว่าผัวได้บุญ ) ในขณะที่ผู้ชาย
ขี้เกียจ อ้างศาสนาเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์ ( มีลูกกี่คนก็ได้ ยิ่งมากยิ่งดี
เพราะถือว่าเป็นของขวัญจากพระเจ้า ) เชื่อในชีวิตหน้า
ชีวิตนี้จะลำบากแค่ไหนก็ได้ ( ตายก็ได้ถ้าผู้นำชี้แนะ
ขนาดที่มีลูกสาวสวย ผู้นำจะชี้เอาเป็นเมียก็ต้องให้ )
2. ผู้นำที่เลว ใช้ศาสนาทำให้ชาวบ้านอยู่ในระบบปิดไม่พูดภาษาไทย
ไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนไทย ไม่รับรู้โลกภายนอก
เพื่อให้ตัวเองเป็นคนสำคัญ และมีอำนาจเหนือชาวบ้าน (ผู้ปกครองนักเรียน
แอบมาเล่าว่าอยากให้ลูกเรียนสูงๆบ้าง ทีลูกผู้นำ
เขาส่งเรียนสูงๆ แต่ลูกเรา เขาบอกให้เรียนปอเนาะได้บุญ)
เขาขอให้ครูช่วยหาทางให้ลูกเขาได้เรียนด้วย
ครูก็ช่วยแล้วมาน้ำตาตกทีหลัง เมื่อมาพบว่าเด็กมาเรียนจนจบปริญญา
แล้วเขาไม่รู้จักเรา แถมบางคนทำท่าเหมือนเรามาอาศัยแผ่นดินเขาอยู่ )
3. โดยนิสัยคนพื้นเมืองที่มีความรู้และได้เป็นใหญ่ จะเห็นแก่ตัว
ไม่ช่วยพัฒนาคนระดับล่างให้มีความรู้ ไม่รู้จักบุญคุณคนโดยเฉพาะคน
นอกศาสนา ถ้าใครให้ เขาจะรับ แต่ไม่ให้ตอบเพราะบาป
นักการเมืองรุ่นเก่าจะเอื้อประโยชน์กับผู้นำศาสนาและชาวบ้าน
(เพื่อคะแนนเสียง ) โดยยอมรับเรื่องที่ผู้นำปิดโลกของคนพื้นเมืองจาก
โลกภายนอก ทำให้คนพื้นเมืองอยู่ไปวันๆ อย่างไม่มีอนาคตในโลกนี้
เพราะโลกหน้าต่างหากที่เป็นของจริง เมื่อชีวิตความเป็นอยู่ของเขายากจน
ก็เป็นความผิดของรัฐบาลที่ไม่เข้าไปดูแล เมื่อเขาพูดไทยไม่ได้และไม่
รู้ว่าที่นี่คือประเทศไทย เขาก็ต้องฟังผู้นำ ในอนาคตพวกเขาจะเป็นพลเมือง
ส่วนใหญ่ในพื้นที่เพราะมีลูกมาก และคนไทยอพยพหนีตาย จากนั้นก็เรียกร้อง
ขอแผ่นดินที่มีแต่พวกเขา เรื่องนี้เล่นไม่ยากในเวทีโลกไม่ใช่หรือ?
4. ระยะหลังเริ่มมีขบวนการแบ่งแยกเชื้อชาติ และส่งเสริมให้ขับไล่ซือแย
(ไทยพุทธ ) ออกจากแผ่นดินรุนแรงขึ้น เนื่องจากได้เงินสนับสนุน
(จากไหนบ้างคุณน่าจะรู้ ) ได้ความฮึกเหิมของชาวอิสลามที่ร่ำรวยขึ้น
และการปลูกฝังว่าอิสลามว่าเป็นพี่น้องกันทั้งโลก ( แต่อยู่ร่วมกับใครไม่ได้ )
เรื่องอย่างนี้เหมือนน้ำท่วมปาก แต่ไม่มีใครกล้าพูดดังๆ ให้พวกคุณฟัง
เพราะเรากลัวตาย การฆ่ารายวันเกิดขึ้นได้ เพราะผู้ร้ายไม่ต้องปฏิบัติตาม
กฎหมาย เรื่องที่พูดมานี้เพื่อจะบอกคุณว่า ในเมื่อคนพื้นเมืองถูกครอบงำให้คิด
ว่า พวกเขาไม่ใช่คนไทย แผ่นดินนี้เป็นของเขา ทุกสิ่งที่เราให้ เขารับ
แต่เขาขอบคุณพระเจ้าที่บันดาลให้ เราให้จึงไม่มีบุญคุณต่อคนนอกศาสนา
ดิฉันเจ็บใจเวลาที่เห็นพวกคุณแสดงความเห็นใจคนพวกนี้และว่าเรื่องที่เกิด
ขึ้นเป็น วามผิดของคนไทย คุณรู้กันบ้างไหมว่าทุกสิ่งที่เราทำ
เราไม่เคยมีความคิดว่าเรื่องนี้ทำให้เฉพาะคนไทยเพราะเราทุกคนเป็นคนไทย
ในจังหวัดที่ดิฉันเป็นครูมา 30 ปี ดิฉันไม่เคยเห็นส่วนข้าราชการไหนที่แบ่งเขา
แบ่งเรา มีแต่เขานั่นแหละที่ทำตัวผิดแปลกแตกแยกมากขึ้นทุกวัน
ถ้าคุณอยู่ที่นี่ซึ่งเป็นแผ่นดินไทย คุณจะรู้สึกอย่างไร
เมื่อเขาเรียกร้องเอาโน่นเอานี่มากขึ้นทุกวัน ฉันจะต้องแต่งตัวอย่างนี้
ฉันจะต้องหยุดวันนี้ ฉันจะไม่ไหว้ครูร่วมกันคนพุทธ
ฉันจะไม่เรียนวิชานี้
ฯลฯ
ด้วยข้ออ้างว่าเพราะขัดกับหลักศาสนา แล้วเราก็ยอมเขาทุกเรื่อง
และให้เห็นความแตกแยกชัดเจนขึ้นทุกวัน นักการเมืองที่เป็นพวกเขา
ก็พูดเอาแต่ได้ และการเอาแต่ได้ของเขาโดยอ้างศาสนา ก็กดคนของเขา
ให้หูหนวกตาบอด ให้ขี้เกียจ ให้ไม่มีความรู้ เพื่อเขาจะได้ใช้คนพวกนี้เป็นฐาน
โดยมีกลุ่มคนที่มองภาพรวมในเรื่องความไม่เท่าเทียมที่คนในสังคมชนบทได้รับ
(อย่างพวกสิทธิมนุษยชน ) เป็นเครื่องมือ ใจคอคุณจะให้ยอมจนกระทั่งคนไทยที่
อยู่ใน 3 จังหวัดต้องพูดภาษาถิ่นที่โลกนี้เขาไม่พูดกัน เพื่อเข้าใจเขาแต่เขาไม่ต้อง
หัดพูดภาษาไทยเพื่ออยู่ในโลกปัจจุบันได้ กระนั้นหรือ
( แต่ครั้นก็ยังช่วยอะไรไม่ได้หรอก เพราะเขาถูกสอนว่าเราเป็นคนนอกศาสนานอก
เชื้อชาติเขา )
ทำไมคนไทยที่มีภาษาถิ่นในภาคอื่น เขาไม่ทำกันอย่างนี้บ้าง
ทำไมเขาถึงยอมพูดภาษากลางที่เป็นภาษาราชการ เพราะเขาคิดว่าเป็นคนไทย
แต่คนพวกนั้นไม่เคยคิดใช่ไหม
แล้วเราจะยอมให้เขาคิดต่อไปหรือให้เขาเลิกคิดกันเสียที
ให้เขาได้หลุดพ้นจากการครอบงำของคนที่หาประโยชน์จากความไม่รู้ของพวกเขาจะ
ดีกว่าไม ถ้าหวังดีกับคนพื้นเมืองจริงๆ
ดิฉันแปลกใจที่คนในกลุ่มคุณอานันท์ (ประธานกอส.)พร่ำพูดแต่เรื่องกรือเซะ
เรื่องตากใบ ทำไมไม่เคยพูดถึงผลที่มาจากเหตุ
คุณตัดตอนมาแต่ความผิดของเจ้าหน้าที่ได้อย่างไร
ทำไมคุณไม่พูดบ้างว่าคนที่พาคนพวกนี้มาตายมีความผิดไหม
บ้านเมืองมีกฏเกณฑ์กติกาในการอยู่ร่วมกันอย่างไร
คนระดับคุณไม่เข้าใจพวกบ้าคลั่งลัทธิเชียวหรือ
ทำไมต้องดูแลเอาใจคนพวกนี้ให้ฮึกเหิมว่ามีคนดีๆในสังคมอย่างพวกคุณคอยหนุน
หลังอยู เขาใช้ประโยชน์จากพวกคุณ (ที่พวกดิฉันแอบเรียกว่าพวกซื่อบริสุทธิ์)
เพื่อสร้างภาพว่าเขาเป็นฝ่ายถูกทั้งที่เขาก่อเหตุร้ายขึ้นในแผ่นดิน
ถ้าคุณเป็นครูมานาน เท่าดิฉันที่เป็นคนภาคกลาง แต่ไปอยู่ที่นั่น
คุณจะรู้ว่ามีความเปลี่ยนแปลงที่น่ากลัวขนาดไหน
ดิฉันเคยไปไหนมาไหนในจังหวัดอย่างคนที่เป็นครู เจอลูกศิษย์ที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
เจอผู้คนที่มีอัธยาศัย แม่ค้าในตลาดพูดกันรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้บ้าง
แต่ต่างฝ่ายต่างพยายามสื่อสารกัน
จนดิฉันเชื่อว่าจะใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่ที่นี่ได้ แต่สิบปีที่ผ่านมานี้
สถานการณ์เริ่มเลวร้ายลง จากการเรียกร้องของผู้ที่อ้างศาสนาทุกวันนี้
เราต้องอยู่ท่ามกลางการไม่ไว้ใจกัน
ทุกอย่างเห็นชัดว่าเลวร้ายมากขึ้นจากการแยกตัวของพวกเขาที่เข้มงวดเรื่อง
การแต่งก ย เรื่องภาษา เรื่องศาสนา และจากเด็กที่เกิดเป็นจำนวนมาก จนน่าตกใจ
เขาเชื่อว่าลูกคือของขวัญจากพระเจ้า ยิ่งมีมากยิ่งดี
แต่ไม่สนใจว่าจะเลี้ยงให้มีคุณภาพได้อย่างไร (รัฐบาลดูแลแก้ไขไปซิ)
สังคมของเขาปัจจุบันนี้ผู้ชายก็ยังแสดงโวหารตามร้านน้ำชา
ทำงานอืดๆเอื่อยๆ นึกจะพักก็พัก นึกจะเลิกก็เลิก เพราะเพื่อนไปทำถนนที่ปัตตานี
ต้องเอาคนงานอีสานไป เพราะคนที่โน่นไม่อดทนทำงาน
(ดีแต่เรียกร้อง)ไม่มีเงินก็ตั้งวงด่าว่าสังคมไม่เป็นธรรม
ใครจะทำธุรกิจก็มีใบปลิวมาขอค่าคุ้มครองแล้ว ใครจะอยากมาลงทุน
เขาพร่ำสอนกันว่า พวกคนเจ๊กคนไทยเอาเปรียบเขา
ทั้งที่มาอาศัยแผ่นดินเขาอยู่ คนที่เคยเป็นมิตรกัน ก็มองกันอย่างไม่ไว้ใจ
ไม่ทักทายปราศรัยกันเหมือนเดิม ครูอิสลามบางคน ที่ไม่ใช่คนที่นี่
บอกว่าคงอยู่ไม่ได้เพราะเขาไม่คลุมหัวก็โดนมองแปลกๆ
จากพวกศาสนาเดียวกัน แต่พวกที่ไม่ใช่อิสลามก็มองเขาอย่างไม่ไว้วางใจ
ดิฉันเชื่อว่า ในคณะกรรมการสมานฉันท์ ที่เป็นฝ่ายอิสลาม
จะต้องแสดงความคับแค้นนานับประการ ที่ได้รับจากบ้านเมือง
ช่วยถามเขาด้วยนะคะว่าทุกวันนี้เขาโดนกดขี่จากใคร
เขาทำตัวกดขี่คนระดับล่างของเขาเองหรือใครทำ ?
มีเรื่องอะไรบ้างที่ภาครัฐปิดโอกาสเขาไม่ให้ได้รับแล้วให้แต่ซือแย
(ไทยพุทธ)จากอดีตจนถึงปัจจุบัน
เคยบ้างไหมที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า
จะทรงคิดว่าเขาเป็นคนอื่น
ท่านทรงมีเมตตากับทุกคนทุกหมู่เหล่าอย่างไม่เคยเลือกที่รักมักที่ชัง
อย่างนี้แล้วข้าราชการของท่านจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร
แผ่นดินนี้ ประเทศนี้
ให้ชีวิตกับเขาได้เจริญก้าวหน้ากว่าคนศาสนาเดียวกัน
เขาควรสำนึกในบุญคุณ ของแผ่นดินและช่วยพัฒนาคนของเขา
แต่เขากลับเลือกใช้ความกลัว ความไม่รู้ของชนชาติเดียวกับเขา
เป็นฐานให้เขาได้เป็นใหญ่ต่อไป เขาทำลายผู้อื่น
เพื่อให้ได้สิ่งที่เขาต้องการเขาคิดว่าทำถูกต้องแล้วหรือ
แล้วพวกคุณก็พลอยเห็นดีเห็นงาม สนับสนุนเขาไปด้วยทั้งที่คุณรู้
เห็นอยู่เต็มตาว่า ประเทศที่ผู้นำแตกแยกเป็นก๊กเป็นเหล่า
ประชาชนได้รับความเดือดร้อนแค่ไหน
ดิฉันขอประณามและสาปแช่งผู้อยู่เบื้องหลังความไม่สงบ
จงประสบแต่ความวิบัติในชีวิต
และขอให้บาปทั้งมวลสืบต่อไปถึงลูกหลานให้เป็นผู้ที่ไม่มีแผ่นดินอยู่อาศัย
สมกับที่บรรพบุรุษได้เนรคุณต่อแผ่นดินเกิด
ขออย่าให้ได้รู้จักกับความสุขสงบเมื่อมีชีวิตอยู่ในโลกนี้และเมื่อล่วงลับ
ไปสู่โล หน้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนสรวงสวรรค์ย่อมรับรู้ในบาปชั่ว
ไม่รับวิญญาณขึ้นไปอยู่กับพระองค์ ต้องตกนรกหมกไหม้จนชั่วนิรันดร์
เพื่อชดใช้ความผิดอันเลวร้ายที่ทำต่อมนุษย์ผู้บริสุทธิ์และแผ่นดินที่อยู่
อาศัยใน ปจัจุบัน
หนึ่งในครูภาคใต
ดิฉันเป็นคนไทยธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่เคยชื่นชม
นับถือแนวความคิดของคุณและติดตามการทำงานของคุณมาช้านาน
ดิฉันเชื่อในความตั้งใจดีของคุณ
นานมาแล้วที่ดิฉันบอกใครๆว่าท่านเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีสุด
เหมาะสมที่สุด และยังคิดเช่นนั้นอยู่
แต่วันนี้ดิฉันและคุณมีความเชื่อในสถานการณ์ภาคใต้ที่ต่างกัน
ดิฉันไม่เคยมีอคติกับใครรวมทั้งคุณ
ดิฉันถือว่าเราต่างคนต่างมีความเชื่อ
เลยขอเรียนว่า
ทำไมถึงมีความเชื่อที่ต่างจากคุณ
ที่เห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความผิดความเลวของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ
ที่ไม่เข้าใจวัฒนธรรมของคนในพื้นที่ (คงต้องรวมถึงดิฉันที่เป็นข้าราชการครูด้วย )
ดิฉันขอเริ่มจากสิ่งที่ตัวเองเห็นเมื่อเป็นครูภาคใต้มา 35 ปี
1. ชาวบ้านแท้ เป็นคนซื่อแต่เชื่อผู้นำอย่างหูหนวก ตาบอด
ผู้หญิงขยันและอดทนอย่างเหลือเชื่อ ( เคยถามคนที่ไม่เคยคลุมหัวฮิญาบ
ว่าทำไมเดี๋ยวนี้ต้องคลุม เธอบอกว่าผัวได้บุญ ) ในขณะที่ผู้ชาย
ขี้เกียจ อ้างศาสนาเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์ ( มีลูกกี่คนก็ได้ ยิ่งมากยิ่งดี
เพราะถือว่าเป็นของขวัญจากพระเจ้า ) เชื่อในชีวิตหน้า
ชีวิตนี้จะลำบากแค่ไหนก็ได้ ( ตายก็ได้ถ้าผู้นำชี้แนะ
ขนาดที่มีลูกสาวสวย ผู้นำจะชี้เอาเป็นเมียก็ต้องให้ )
2. ผู้นำที่เลว ใช้ศาสนาทำให้ชาวบ้านอยู่ในระบบปิดไม่พูดภาษาไทย
ไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนไทย ไม่รับรู้โลกภายนอก
เพื่อให้ตัวเองเป็นคนสำคัญ และมีอำนาจเหนือชาวบ้าน (ผู้ปกครองนักเรียน
แอบมาเล่าว่าอยากให้ลูกเรียนสูงๆบ้าง ทีลูกผู้นำ
เขาส่งเรียนสูงๆ แต่ลูกเรา เขาบอกให้เรียนปอเนาะได้บุญ)
เขาขอให้ครูช่วยหาทางให้ลูกเขาได้เรียนด้วย
ครูก็ช่วยแล้วมาน้ำตาตกทีหลัง เมื่อมาพบว่าเด็กมาเรียนจนจบปริญญา
แล้วเขาไม่รู้จักเรา แถมบางคนทำท่าเหมือนเรามาอาศัยแผ่นดินเขาอยู่ )
3. โดยนิสัยคนพื้นเมืองที่มีความรู้และได้เป็นใหญ่ จะเห็นแก่ตัว
ไม่ช่วยพัฒนาคนระดับล่างให้มีความรู้ ไม่รู้จักบุญคุณคนโดยเฉพาะคน
นอกศาสนา ถ้าใครให้ เขาจะรับ แต่ไม่ให้ตอบเพราะบาป
นักการเมืองรุ่นเก่าจะเอื้อประโยชน์กับผู้นำศาสนาและชาวบ้าน
(เพื่อคะแนนเสียง ) โดยยอมรับเรื่องที่ผู้นำปิดโลกของคนพื้นเมืองจาก
โลกภายนอก ทำให้คนพื้นเมืองอยู่ไปวันๆ อย่างไม่มีอนาคตในโลกนี้
เพราะโลกหน้าต่างหากที่เป็นของจริง เมื่อชีวิตความเป็นอยู่ของเขายากจน
ก็เป็นความผิดของรัฐบาลที่ไม่เข้าไปดูแล เมื่อเขาพูดไทยไม่ได้และไม่
รู้ว่าที่นี่คือประเทศไทย เขาก็ต้องฟังผู้นำ ในอนาคตพวกเขาจะเป็นพลเมือง
ส่วนใหญ่ในพื้นที่เพราะมีลูกมาก และคนไทยอพยพหนีตาย จากนั้นก็เรียกร้อง
ขอแผ่นดินที่มีแต่พวกเขา เรื่องนี้เล่นไม่ยากในเวทีโลกไม่ใช่หรือ?
4. ระยะหลังเริ่มมีขบวนการแบ่งแยกเชื้อชาติ และส่งเสริมให้ขับไล่ซือแย
(ไทยพุทธ ) ออกจากแผ่นดินรุนแรงขึ้น เนื่องจากได้เงินสนับสนุน
(จากไหนบ้างคุณน่าจะรู้ ) ได้ความฮึกเหิมของชาวอิสลามที่ร่ำรวยขึ้น
และการปลูกฝังว่าอิสลามว่าเป็นพี่น้องกันทั้งโลก ( แต่อยู่ร่วมกับใครไม่ได้ )
เรื่องอย่างนี้เหมือนน้ำท่วมปาก แต่ไม่มีใครกล้าพูดดังๆ ให้พวกคุณฟัง
เพราะเรากลัวตาย การฆ่ารายวันเกิดขึ้นได้ เพราะผู้ร้ายไม่ต้องปฏิบัติตาม
กฎหมาย เรื่องที่พูดมานี้เพื่อจะบอกคุณว่า ในเมื่อคนพื้นเมืองถูกครอบงำให้คิด
ว่า พวกเขาไม่ใช่คนไทย แผ่นดินนี้เป็นของเขา ทุกสิ่งที่เราให้ เขารับ
แต่เขาขอบคุณพระเจ้าที่บันดาลให้ เราให้จึงไม่มีบุญคุณต่อคนนอกศาสนา
ดิฉันเจ็บใจเวลาที่เห็นพวกคุณแสดงความเห็นใจคนพวกนี้และว่าเรื่องที่เกิด
ขึ้นเป็น วามผิดของคนไทย คุณรู้กันบ้างไหมว่าทุกสิ่งที่เราทำ
เราไม่เคยมีความคิดว่าเรื่องนี้ทำให้เฉพาะคนไทยเพราะเราทุกคนเป็นคนไทย
ในจังหวัดที่ดิฉันเป็นครูมา 30 ปี ดิฉันไม่เคยเห็นส่วนข้าราชการไหนที่แบ่งเขา
แบ่งเรา มีแต่เขานั่นแหละที่ทำตัวผิดแปลกแตกแยกมากขึ้นทุกวัน
ถ้าคุณอยู่ที่นี่ซึ่งเป็นแผ่นดินไทย คุณจะรู้สึกอย่างไร
เมื่อเขาเรียกร้องเอาโน่นเอานี่มากขึ้นทุกวัน ฉันจะต้องแต่งตัวอย่างนี้
ฉันจะต้องหยุดวันนี้ ฉันจะไม่ไหว้ครูร่วมกันคนพุทธ
ฉันจะไม่เรียนวิชานี้
ฯลฯ
ด้วยข้ออ้างว่าเพราะขัดกับหลักศาสนา แล้วเราก็ยอมเขาทุกเรื่อง
และให้เห็นความแตกแยกชัดเจนขึ้นทุกวัน นักการเมืองที่เป็นพวกเขา
ก็พูดเอาแต่ได้ และการเอาแต่ได้ของเขาโดยอ้างศาสนา ก็กดคนของเขา
ให้หูหนวกตาบอด ให้ขี้เกียจ ให้ไม่มีความรู้ เพื่อเขาจะได้ใช้คนพวกนี้เป็นฐาน
โดยมีกลุ่มคนที่มองภาพรวมในเรื่องความไม่เท่าเทียมที่คนในสังคมชนบทได้รับ
(อย่างพวกสิทธิมนุษยชน ) เป็นเครื่องมือ ใจคอคุณจะให้ยอมจนกระทั่งคนไทยที่
อยู่ใน 3 จังหวัดต้องพูดภาษาถิ่นที่โลกนี้เขาไม่พูดกัน เพื่อเข้าใจเขาแต่เขาไม่ต้อง
หัดพูดภาษาไทยเพื่ออยู่ในโลกปัจจุบันได้ กระนั้นหรือ
( แต่ครั้นก็ยังช่วยอะไรไม่ได้หรอก เพราะเขาถูกสอนว่าเราเป็นคนนอกศาสนานอก
เชื้อชาติเขา )
ทำไมคนไทยที่มีภาษาถิ่นในภาคอื่น เขาไม่ทำกันอย่างนี้บ้าง
ทำไมเขาถึงยอมพูดภาษากลางที่เป็นภาษาราชการ เพราะเขาคิดว่าเป็นคนไทย
แต่คนพวกนั้นไม่เคยคิดใช่ไหม
แล้วเราจะยอมให้เขาคิดต่อไปหรือให้เขาเลิกคิดกันเสียที
ให้เขาได้หลุดพ้นจากการครอบงำของคนที่หาประโยชน์จากความไม่รู้ของพวกเขาจะ
ดีกว่าไม ถ้าหวังดีกับคนพื้นเมืองจริงๆ
ดิฉันแปลกใจที่คนในกลุ่มคุณอานันท์ (ประธานกอส.)พร่ำพูดแต่เรื่องกรือเซะ
เรื่องตากใบ ทำไมไม่เคยพูดถึงผลที่มาจากเหตุ
คุณตัดตอนมาแต่ความผิดของเจ้าหน้าที่ได้อย่างไร
ทำไมคุณไม่พูดบ้างว่าคนที่พาคนพวกนี้มาตายมีความผิดไหม
บ้านเมืองมีกฏเกณฑ์กติกาในการอยู่ร่วมกันอย่างไร
คนระดับคุณไม่เข้าใจพวกบ้าคลั่งลัทธิเชียวหรือ
ทำไมต้องดูแลเอาใจคนพวกนี้ให้ฮึกเหิมว่ามีคนดีๆในสังคมอย่างพวกคุณคอยหนุน
หลังอยู เขาใช้ประโยชน์จากพวกคุณ (ที่พวกดิฉันแอบเรียกว่าพวกซื่อบริสุทธิ์)
เพื่อสร้างภาพว่าเขาเป็นฝ่ายถูกทั้งที่เขาก่อเหตุร้ายขึ้นในแผ่นดิน
ถ้าคุณเป็นครูมานาน เท่าดิฉันที่เป็นคนภาคกลาง แต่ไปอยู่ที่นั่น
คุณจะรู้ว่ามีความเปลี่ยนแปลงที่น่ากลัวขนาดไหน
ดิฉันเคยไปไหนมาไหนในจังหวัดอย่างคนที่เป็นครู เจอลูกศิษย์ที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
เจอผู้คนที่มีอัธยาศัย แม่ค้าในตลาดพูดกันรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้บ้าง
แต่ต่างฝ่ายต่างพยายามสื่อสารกัน
จนดิฉันเชื่อว่าจะใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่ที่นี่ได้ แต่สิบปีที่ผ่านมานี้
สถานการณ์เริ่มเลวร้ายลง จากการเรียกร้องของผู้ที่อ้างศาสนาทุกวันนี้
เราต้องอยู่ท่ามกลางการไม่ไว้ใจกัน
ทุกอย่างเห็นชัดว่าเลวร้ายมากขึ้นจากการแยกตัวของพวกเขาที่เข้มงวดเรื่อง
การแต่งก ย เรื่องภาษา เรื่องศาสนา และจากเด็กที่เกิดเป็นจำนวนมาก จนน่าตกใจ
เขาเชื่อว่าลูกคือของขวัญจากพระเจ้า ยิ่งมีมากยิ่งดี
แต่ไม่สนใจว่าจะเลี้ยงให้มีคุณภาพได้อย่างไร (รัฐบาลดูแลแก้ไขไปซิ)
สังคมของเขาปัจจุบันนี้ผู้ชายก็ยังแสดงโวหารตามร้านน้ำชา
ทำงานอืดๆเอื่อยๆ นึกจะพักก็พัก นึกจะเลิกก็เลิก เพราะเพื่อนไปทำถนนที่ปัตตานี
ต้องเอาคนงานอีสานไป เพราะคนที่โน่นไม่อดทนทำงาน
(ดีแต่เรียกร้อง)ไม่มีเงินก็ตั้งวงด่าว่าสังคมไม่เป็นธรรม
ใครจะทำธุรกิจก็มีใบปลิวมาขอค่าคุ้มครองแล้ว ใครจะอยากมาลงทุน
เขาพร่ำสอนกันว่า พวกคนเจ๊กคนไทยเอาเปรียบเขา
ทั้งที่มาอาศัยแผ่นดินเขาอยู่ คนที่เคยเป็นมิตรกัน ก็มองกันอย่างไม่ไว้ใจ
ไม่ทักทายปราศรัยกันเหมือนเดิม ครูอิสลามบางคน ที่ไม่ใช่คนที่นี่
บอกว่าคงอยู่ไม่ได้เพราะเขาไม่คลุมหัวก็โดนมองแปลกๆ
จากพวกศาสนาเดียวกัน แต่พวกที่ไม่ใช่อิสลามก็มองเขาอย่างไม่ไว้วางใจ
ดิฉันเชื่อว่า ในคณะกรรมการสมานฉันท์ ที่เป็นฝ่ายอิสลาม
จะต้องแสดงความคับแค้นนานับประการ ที่ได้รับจากบ้านเมือง
ช่วยถามเขาด้วยนะคะว่าทุกวันนี้เขาโดนกดขี่จากใคร
เขาทำตัวกดขี่คนระดับล่างของเขาเองหรือใครทำ ?
มีเรื่องอะไรบ้างที่ภาครัฐปิดโอกาสเขาไม่ให้ได้รับแล้วให้แต่ซือแย
(ไทยพุทธ)จากอดีตจนถึงปัจจุบัน
เคยบ้างไหมที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า
จะทรงคิดว่าเขาเป็นคนอื่น
ท่านทรงมีเมตตากับทุกคนทุกหมู่เหล่าอย่างไม่เคยเลือกที่รักมักที่ชัง
อย่างนี้แล้วข้าราชการของท่านจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร
แผ่นดินนี้ ประเทศนี้
ให้ชีวิตกับเขาได้เจริญก้าวหน้ากว่าคนศาสนาเดียวกัน
เขาควรสำนึกในบุญคุณ ของแผ่นดินและช่วยพัฒนาคนของเขา
แต่เขากลับเลือกใช้ความกลัว ความไม่รู้ของชนชาติเดียวกับเขา
เป็นฐานให้เขาได้เป็นใหญ่ต่อไป เขาทำลายผู้อื่น
เพื่อให้ได้สิ่งที่เขาต้องการเขาคิดว่าทำถูกต้องแล้วหรือ
แล้วพวกคุณก็พลอยเห็นดีเห็นงาม สนับสนุนเขาไปด้วยทั้งที่คุณรู้
เห็นอยู่เต็มตาว่า ประเทศที่ผู้นำแตกแยกเป็นก๊กเป็นเหล่า
ประชาชนได้รับความเดือดร้อนแค่ไหน
ดิฉันขอประณามและสาปแช่งผู้อยู่เบื้องหลังความไม่สงบ
จงประสบแต่ความวิบัติในชีวิต
และขอให้บาปทั้งมวลสืบต่อไปถึงลูกหลานให้เป็นผู้ที่ไม่มีแผ่นดินอยู่อาศัย
สมกับที่บรรพบุรุษได้เนรคุณต่อแผ่นดินเกิด
ขออย่าให้ได้รู้จักกับความสุขสงบเมื่อมีชีวิตอยู่ในโลกนี้และเมื่อล่วงลับ
ไปสู่โล หน้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนสรวงสวรรค์ย่อมรับรู้ในบาปชั่ว
ไม่รับวิญญาณขึ้นไปอยู่กับพระองค์ ต้องตกนรกหมกไหม้จนชั่วนิรันดร์
เพื่อชดใช้ความผิดอันเลวร้ายที่ทำต่อมนุษย์ผู้บริสุทธิ์และแผ่นดินที่อยู่
อาศัยใน ปจัจุบัน
หนึ่งในครูภาคใต
วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2550
บทที่ ๒๔ ข้อเสนอความคิดเห็น แนวทางแก้ปัญหา...โดย สอาด จันทร์ดี
รักใดจะใหญ่เท่ารักชาติไม่มี
เมื่อรู้ว่าแผ่นดินอันเป็นที่รักจะถูกยื้อแย่งเอาไปไม่ว่าน้อยหรือมาก จิตที่หวงแหนย่อมจะเกิดวิตกกังวลไปต่างๆ
นานา เกรงว่าจะรักษาเอาไว้ไม่ได้
ดังนั้น จึงเห็นว่าเมื่อได้เขียนเล่าเรื่องพอประเทืองปัญญา ให้แก่ท่านผู้อ่านได้ร่วมรับรู้เอาไว้ว่าไฟใต้ ใครบงการ ?
ผมจึงอยากนำเสนอความคิดเห็นแนวทางแก้ปัญหา ดังต่อไปนี้
สรุป หรือ "ย่อ" ความผิดพลาด ๕ ประการของฝ่ายรัฐบาล
๑. คณะผู้บริหารประเทศทุกระดับ ทุกกลุ่มไม่เข้าใจทฤษฏีของพระพุทธศาสนาที่แท้จริง นั้นก็คือ "คนดี - ทำชั่ว
ได้ยาก ทำดีได้ง่าย ในมุมมองตรงกันข้าม คนชั่ว - ทำดีได้ยาก ทำชั่วได้ง่าย" ซึ่งเป็นพระพุทธพจน์ขององค์
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงทำให้ประเทศของเราตกเป็นเหยื่อของโจรชั่วที่ก่อกรรมทำบาป เพราะคนชั่วย่อมทำ
ชั่วได้ง่าย พวกเขาไม่ยอมทำความดี ไม่เลิกฆ่า
ประกอบกับคนที่ทางการส่งมาและให้ไปแก้ปัญหาที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ได้ตระหนักถึงพิษสงร้ายกาจ
อันจะเกิดจากพวกคนชั่ว หลงเชื่อว่าแนวทางของรัฐบาล จะแก้ปัญหาได้ เมื่อนำแนวคิดของรัฐบาลเอาไปปฏิบัติ
แทนที่จะเกิดผลดี กลับตกอยู่ภายใต้เล่ห์เหลี่ยมของโจร และร้ายแรงจนพากันไปติดกับโจร
๒. ความผิดพลาดอีกประการหนึ่งเกิดจาก "คำเท็จ" ที่โจรปัตตานีประกาศเสมอว่า ข้าราชการข่มเหงรังแก
คนพุทธเบียดเบียนอิสลาม รัฐบาลทุกรัฐบาลพากันออกมาแก้สถานการณ์นี้ ด้วยการประกาศว่า "ต่อไปจะดูแล
อย่างใกล้ชิด ไม่ให้ข้าราชการชั่วๆ มาข่มเหงรังแก" เมื่อรัฐบาลประกาศออกมาเช่นนี้ สื่อก็พากันเอามาเสนอ
เป็นข่าวต่อ แล้วเผยแพร่ไปทั่วประเทศ เป็นผลทำให้ "คำเท็จ" ที่โจรสร้างขึ้นมากลายเป็นความจริง ทั้งๆที่ไม่จริง
เพราะความจริงนั้น พวกโจรปัตตานีเป็นฝ่ายข่มเหงรังแกข้าราชการ ทหาร ตำรวจ
พุทธไม่ได้เบียดเบียนอิสสาม ไม่ว่ากรณีใดๆ
๓.สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นมานาน โจรปัตตานีขัดขวางพี่น้องคนไทยเชื้อสายมลายูไม่ให้ยอมรับการเป็นคนไทย ห้ามไม่
ให้เรียนภาษาไทย ห้ามพูดไทย ห้ามร้องเพลงชาติไทย ห้ามแต่งงานกับคนไทยพุทธ ห้ามไม่ให้เคารพนับถือ
สถาบันของชาติ ห้ามทุกสิ่งทุกอย่าง และแสดงออกมาอย่างเปิดเผย
ต่อมาผู้นำของประเทศเห็นดีงามกับการให้ถือสองสัญชาติได้อย่างอิสระ ประเทศไทยทำตามคำขอร้องของผู้นำ
มาเลเซีย ตกเป็นเหยื่อทางการเมือง ถูกต้มตุ๋นให้เสียท่ายากที่จะเอาคืน ไทยแก้ปัญหาด้วยการใช้เงิน "ซื้อใจ"
ใช้ประโยชน์เอามาปรนเปรอ หมายจะโน้มน้าวจิตใจไม่ให้เกลียดชังประเทศไทย โดยไม่ได้ติดตามดูความเป็น
จริง ว่าสิ่งที่ทำไปได้ผลหรือไม่ เป็นความผิดพลาดเชิงนโยบาย ที่กัดกร่อนกินเนื้อตัวเองมาเนิ่นนาน
๔. โจรปัตตานีใช้หลักการศาสนาอิสลาม เอามาเป็น"ทฤษฏีชี้นำ" (element) มีการต่อรองในทุกระดับ โจร
ปัตตานีใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือ ข่มขู่แล้วขอ ขอแล้วข่มขู่ สลับกันไปอย่างมีระบบ ทำให้ฝ่ายรัฐบาลตกเป็นเบี้ย
ล่าง อ้างว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทำให้ฝ่ายโจรปัตตานีได้โอกาสบั่นทอนความมั่นคงของพระพุทธศาสนา
ฝ่ายรัฐบาลเอง ถูกวิธีการของโจรคุกคามเอา จนเกิดความรู้สึกผิดพลาดต่อพระพุทธศาสนาของตน เกิดความรู้
สึกว่า ถ้าเข้าข้างชาวพุทธมาก จะถูกโจมตีว่าลำเอียง จนสุดท้าย โจรฆ่าพระอย่างป่าเถื่อน เยาะเย้ย ฝ่าย
รัฐบาลคงเรียกร้องให้สมานฉันท์ อันเป็นการยอมแพ้โดยปริยาย
๕. ในคณะรัฐบาลและหน่วยราชการ ทำเนียบรัฐบาล หรือ รัฐสภา หรือสภาท้องถิ่น รวมทั้งสื่อบางฉบับ เป็น
แนวร่วมของโจร เป็นไส้ศึก หรือมีหัวหน้าโจรปะปนอยู่ด้วย ตั้งแต่ระดับสูง ลงมาจนถึงระดับล่าง โจรจึงมี
ประสิทธิภาพในการวางแผนก่อวินาศกรรม ออกคำสั่งทับซ้อนจนก่อให้เกิดความผิดพลาด ก่อให้เกิดข้อขัดแย้ง
เกิดความสับสน ขลุกขลักน่าตำหนิ
สรุป หรือ "ย่อ" ความต้องการของโจรปัตตานีมี ๒ ประการ
๑. โจรปัตตานีเดินหน้าต่อสู้ "แบ่งแยกดินแดน" ทั้งในและนอกประเทศ
ได้วางเครือข่ายเอาไว้อย่างครบถ้วน และได้สร้างองคาพยพให้มีความพร้อมในหลายระดับ ที่จะจัดการให้เกิด
การเปลี่ยนแปลง โจรปัตตานีตั้งเป้า หมายเอาไว้ประการเดียว คือ การแบ่งแยกดินแดน แยกปัตตานี ยะลา
นราธิวาส ออกมาเป็นเอกราช ตั้งเป็นประเทศใหม่ขึ้นในโลก
วิธีการแบ่งแยกดินแดน จะใช้แนวหน้าเฉพาะผู้คนในพื้นที่ ๓ จังหวัด ลดจากเดิมที่เคยประกาศว่า ๔ หรือ ๕
จังหวัด เพื่อจะได้ทำให้การต่อสู้มีอำนาจรุนแรง (Violation) อย่างแท้จริง
๒. โจรปัตตานี มีวัตถุประสงค์ที่จะขยายอำนาจของอิสลามให้ขยับเข้าไปเกาะกุมพี้นที่ในทุก ส่วนของ
ประเทศไทย จึงจัดหาทุน ส่งเสริม"มุสลิม" ให้เคลื่อนย้ายครอบครัวไปอยู่ในทุกจังหวัดเอาไว้ให้ได้ แล้วจะ
ขยายไปสู่อำเภอ ลงไปสู่ตำบลและหมู่บ้าน แล้วออกมาตรการ ที่ไหนมีอิสลาม ที่นั่นจะมีสุเหร่า หรือ มัสยิด มีน
โยบายที่จะยึดหัวหาด สร้างอาณาจักรไทยให้เป็นรัฐมุสลิมให้ได้ภายใน ๑๐๐ ปีข้างหน้า หรือว่าถ้าเป็นไปไม่ได้
ก็จะต้องได้อำนาจมากกว่าครึ่ง ได้เกาะกุมระบบของประเทศ จนสามารถสร้างรัฐอิสลามในประเทศไทยได้ในที่สุด
ดังนั้นถ้าจะให้โจรสมานฉันท์ โจรต้องได้ในสิ่งที่เขาต่อสู้ถ้าจะให้โจรรับคำขอโทษ เขาจะต้องได้สิ่งที่เขาต้อง
การตอบแทนก่อนเท่านั้นและถ้าจะให้โจรเลิกการต่อสู้ เขามีคำถามอยู่แล้ว เขาได้อะไรประเทศไทยหมด
โอกาสที่จะเจรจาสงบศึก หรือว่า แม้ว่าเขาจะยอมสงบศึก...นั้นเป็นยุทธการที่ถูกวางเอาไว้ เพื่อชัยชนะใน
วันข้างหน้า
วิเคราะห์ข้อสรุป
ดังนั้น เราจึงวิเคราะห์ได้ ประเทศไทยมีความผิดพลาด แม้จะรู้ว่าเรามีความผิดพลาด เราก็ต้องทบทวนใน
ความผิดพลาดนั้น ค้นให้พบว่ามีรากเหง้ามาจากคณะราษฎร์จริงหรือไม่ ค้นต่อไปว่าการที่คณะราษฎร์ได้อำนาจ
มาจากพระเจ้าแผ่นดิน พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ คณะราษฎร์รับเอามาแต่พระราช
อำนาจทางอาณาจักร โดยไม่ได้รับเอาความผิดชอบต่อศาสนจักรมาปฏิบัติ เป็นความจริงหรือไม่
อีกท่อนหนึ่ง ที่สำคัญมากได้แก่ คณะราษฎร์ได้ทอดทิ้งพระพุทธศาสนา จนกลายเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีให้นักการ
เมืองรุ่นหลัง รวมทั้งข้าราชการทั้งหลาย ก็พลอยทอดทิ้งพระพุทธศาสนาตามไปด้วย จริงหรือไม่
วิเคราะห์อีกทีว่า หนังสือกระเทาะเปลือกไฟใต้ ใครบงการ เล่มนี้ มีมูลความจริงหรือไม่
แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง ประเทศไทยจะต้องดำเนินการแก้ไขอย่างรีบด่วนและทรงพลัง เพราะไม่มีทางอื่นให้เลือกอีกแล้ว
สรุปแนวทางแก้ปัญหา ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ๕ ประการ
๑. จะต้อง "ผ่าตัด" จัดตั้งหลักการกันใหม่ วาดภาพกว้างทั่วประเทศวิธีการจัดหลักการใหม่ คือต้องรื้อโครง
สร้างที่ไม่ดี แล้วสร้างใหม่ขึ้น ให้เป็นโครงสร้าง (Perspective) ที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาของชาติทั้ง
ระบบ เพื่อความมั่นคงทียั่งยืนถาวร ป้องกันไม่ให้ขนเผ่าใดไม่ยอมรับว่าตนเองเป็นคนไทย โครงสร้างใหม่ จะ
ต้องทำให้เกิดมิติใหม่ ทำให้คนไทยทุกชนเผ่า มีความเต็มใจที่จะเป็นคนไทยด้วยความเต็มใจ และมีความ
เลื่อมใสศรัทธาในประเทศไทย
วิธีการที่จะได้มา กล่าวคือให้คณะนักวิชาการ สร้างคู่มือขึ้นมาให้กับนักการเมืองและข้าราชการ และประชาชน
ทั้งหลาย ให้มีความรู้ในเนื้อหาของโครงสร้างใหม่ แล้วส่งเสริมให้มีการปฏิบัติอย่างเป็นระบบ เป็นการสร้าง
จารีตประเพณีให้แก่คนไทย เมื่อเกิดเป็นไทย ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติไหนมาก่อนก็ตาม จะต้องเป็นคนไทยทั้งกาย
และใจ หล่อหลอมให้เป็นคนไทยตั้งแต่เกิด เมื่อเกิดมาแล้วห้ามไม่ให้ผู้ใดปลุกปั่นยุยง ขัดขวางการเป็นคนไทย
จัดสร้างหลักสูตร สอนคนไทยให้เข้าใจชาติของตนเองว่า มีกี่ชนเผ่ารวมกันขึ้นเป็นคนไทย แล้วสอนให้รู้ว่า
ประเทศไทยมีกี่ศาสนา คนไทยทุกคนมีหน้าที่ปกป้องคุ้มครองศาสนาที่ตนรักและเคารพ ด้วยการปฏิบัติตามคำสอน
ของศาสนาให้ดีงาม คนไทยทุกคนไม่ว่าจะนับถือศาสนาไหนก็ตาม ต้องยกย่องคุ้มครองสถาบันกษัตริย์ ห้ามมิให้
ชนเผ่าใดอ้างตนเป็นอิสระ ประเทศไทยจะต้องจัดการให้คนไทยทุกเผ่า ไมให้เบียดเบียนกัน แรกเริ่มจะยุ่งยาก
เพราะเราได้ปล่อยปละละเลยมาเนิ่นนาน เมื่อวันเวลาผ่านไปไม่เกิน ๑๐ ปี ความรู้สึกคนไทยจะดีขึ้น
ประเทศไทยต้องแสดงเอกลักษณ์เทียบมาตรฐานการเป็นชนเผ่าต่างๆในโลก
ชนชาติไหนได้สวัสดิการดีที่สุด ชนชาติไหนได้มาตรฐานดีที่สุด
ถ้าชนชาติอื่นมาอยู่ประเทศไทย แล้วต่อสู้กับประเทศไทย ต้องเนรเทศออกไป
๒. จัดตั้งกระทรวงขึ้นมาใหม่กระทรวงหนึ่ง เรียกว่า กระทรวงความมั่นคงภายใน
วิธีการได้แก่ให้กระทรวงนี้บริหารความแตกต่างทางความคิด ความแตกต่างในเชื้อชาติ และความแตกต่างใน
ขนบธรรมเนียมประเพณี รัฐมนตรีและข้าราชการของกระทรวงนี้ ทำหน้าที่แก้ไขเพื่อการปูรากฐานไปสู่ “ความ
เป็นคนไทย” ที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย แล้ววางแผนสร้างคน
ไทยรุ่นต่อไปให้ยอมรับหรือกลายพันธุ์เป็นคนไทยโดยธรรมชาติ โดยไม่ต้องใช้จิตวิทยาใดเอามาเป็นเครื่องจูง
ใจอีกต่อไป
๓. ปัญหา ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้
วิธีการแก้ปัญหานี้ ถือว่าเป็นทั้งปัญหาเฉพาะหน้าและเป็นปัญหาระยะยาวของประเไทย เราถูกโจรแบ่งแยกดิน
แดนปลุกปั่นประชาชนเชื้อสายมลายูไม่ให้ยอมรับตัวเองว่าเป็นคนไทย เป็นปัญหาร้ายแรง ยากที่จะแก้ไขให้จบ
ลงได้โดยง่ายนั้น ถือว่าเป็นภัยอย่างใหญ่หลวงในระบอบการปกครองของไทย เราจะแก้โดยวิธี “โอนอ่อนผ่อน
ตาม” ต่อไปไม่ได้ หรือจะใช้ระบบเจรจาหย่าศึกก็ไม่ได้ เพราะบทสรุปปรากฎชัดออกมาแล้วว่า โจรปัตตานี
ไม่มีความปรารถนาอย่างอื่น พวกเขามีเป้าหมายต้องการแบ่งแยกดินแดนสถานเดียวเท่านั้น
ดังนั้น ทางแก้คือ กองทัพต้องเข้าไปจัดการ รัฐบาลจะต้องเอาความเข้มแข็งของกองทัพเข้าไปจัดการขั้นเด็ด
ขาด เอาโจรให้อยู่ อย่าให้โจรมีกำลังเคลื่อนไหวได้ ต้องกดดันโจรให้หยุดการกระทำ รัฐบาลต้องประกาศให้
รู้ว่าเรารู้วัตถุประสงค์อันแท้จริงของกลุ่มผู้ไม่หวังดีแล้ว เราจะปล่อยต่อไปไม่ได้
กองทัพเรือจัดตั้งฐานทัพลอยน้ำ หรือบนเกาะ-เกาะใดเกาะหนึ่ง ตรงข้ามจังหวัดปัตตานี
กองทัพอากาศ สร้างกองบินน้อยที่จังหวัดนราธิวาส
กองทัพบก สร้างค่ายทหารถาวร ในจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส
ตั้งกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนขึ้น เช่นเดียวกับจังหวัดทางภาคเหนือ
จัดตั้งกองกำลังเสือพรานขึ้นทันที
บูรณะซ่อมแซมพระราชวังทักษิณราชนิเวศน์ให้โอ่อ่าใหญ่โตขึ้น ส่วนไหนที่โจรปัตตานีเข้าไปทำลาย ให้รักษาเป็น
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
ตั้งนิคมพัฒนาตนเองให้ประชาชนนอกพื้นที่เข้าไปตั้งบ้านเรือน ทำการเกษตร
ตั้งนิคมสร้างตนเองให้ครอบครัวทหารและทหารผ่านศึก
ประกาศให้ประชาชนรับรู้ความจริง แยกประชาชนออกจากโจรให้ได้
มอบหมายให้ศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้ทุกคนได้รับทราบ แล้วรับลง
ทะเบียนราษฎรที่ยอมรับหลักการใหม่ ให้สามารถรับตัวเลขได้ชัดว่า มีคนที่แยกตัวออกมาจากโจรมากน้อยเพียงใด
รัฐบาลกับศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย จัดการประชุมและอบรมหลักสูตรสมานฉันท์ ให้สามารถปฏิบัติให้
เกิดเป็นจริงที่ยั่งยืน
ส่งเสริมให้คนไทยเลิกนำเอาศาสนามาเป็นข้อขัดแย้ง
ส่งเสริมให้ทุกคนยอมรับในิสิทธิเสรีภาพที่ทัดเทียมกัน ไม่ให้ผู้ใดเอาเปรียบคนอื่น ไม่ให้ฆ่าคนอื่น ไม่ให้เบียด
เบียนศาสนาทั้งทางตรงและทางอ้อม
เรียกร้องต่อสังคมไทยทั้งสังคมให้ตระหนักถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ประกาศประณามกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดี ที่ขัดขวางคนอื่นไม่ให้เป็นคนไทย
แล้วสร้างสังคมใหม่ (Creator sociality free of war) ให้เป็นสังคมที่ปราศจากการข่มขู่คุกคามไม่ให้
มีคนมาป่วนได้
๔. ปัญหารัฐธรรมนูญ
รัฐธรรมนูญของประเทศไทย มีปัญหาไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ทั้งนี้เนื่องจากคนร่างกับคนที่จะได้อำนาจเป็นคน
เดียวกันหรือเป็นกลุ่มเดียวกัน ทำให้รัฐธรรมนูญของประเทศไทยไม่สมประกอบ พิกลพิการ มีความสมบูรณ์ท่อน
หนึ่งแต่อีกท่อนหนึ่งไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะได้แก่รัฐธรรมนูญไม่สามารถยับยั้งคนในชาติเอารัดเอาเปรียบกันได้
รัฐธรรมนูญทุกฉบับ คนที่เป็นคนไทยโดยแท้กลายเป็นผู้ถูกเอาเปรียบ
ตัวอย่างที่เห็นได้ง่าย ชาวนาถูกฟ้องร้องยึดที่ดินได้ง่ายดาย
ชาวนาไทยกลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัย ไร้ที่ทำกิน
ในรัฐธรรมนูญก็กำหนดคุณสมบัติปริญญาตรี ซึ่งลูกหลานชาวนาหมดสิทธิ์ที่จะได้เข้าร่วมทางการเมือง ทำให้สังคม
ไทย “เห็นคนรวย” และเห็น “คนชาติอื่น” ที่เจริญกว่าเป็นที่พึ่ง จึงแห่ไปขายเสียงให้แก่พวกเขาเหล่านั้น
ดังนั้น จึงต้องจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับที่จะมีขึ้นในวันข้างหน้าอย่างดีที่สุด
เนื้อหาสาระ ประกอบด้วย ความมั่นคงของสถาบัน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
วิธีการสร้างรัฐธรรมนูญเพื่อความมั่นคง
ต้องมีหมวดว่าด้วย “ศาสนา” เอาไว้ในรัฐธรรมนูญ จะได้เป็นการประกาศอย่างเปิดเผยให้สมกับความยิ่งใหญ่
ของศาสนา
บรรจุหลักการของศาสนาทุกศาสนา คือศูนย์รวมแห่งการสร้างคุณงามความดี ส่งเสริมเอาไว้ในรัฐธรรมนูญว่า
ศาสนาคือศูนย์รวมแห่งความสมานฉันท์ที่ยั่งยืนตลอดกาล
ต้องมีหมวดว่าด้วย “ชนเผ่า” เอาไว้ในรัฐธรรมนูญ ว่าชนเผ่าเหล่านี้รวมตัวกันเข้าเป็นคนไทย ประกาศ
อาณาเขตของประเทศไทย จำนวนตารางกิโลเมตรหรือตารางไมล์ จำนวนประชากรของชนเผ่าเอาไว้ในปี
พระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แล้วยกรัฐธรรมนูญฉบับนี้มองแด่ประชาชนทั้งชาติรับเอาไปยึดถือเป็นกฎหมายสูงสุดต่อไป
๕. จัดงานฉลองความเป็นคนไทย
เมื่อสามารถจัดการกับโจรปัตตานีได้สำเร็จ สามารถทำให้ประชาชนยอมรับการเป็นคนไทยได้เมื่อใด เมื่อนั้น
ให้จัดงานฉลองขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เพื่อแสดงให้ทุกคนได้รับความอบอุ่น ความสมหวัง แสดงนิทรรศการทุกรูปแบบว่า
โครงสร้างการพัฒนาภาคใต้ทั้งภาค จะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร
ทำให้สังคมได้เห็นและได้รับรู้ว่าสถานะข้างหน้า เช่น สถานศาสนาอิสลาม พระพุทธศาสนา ระบบการศึกษา
มหาวิทยาลัย การแพทย์ การกีฬา โรงงานอุตสาหกรรม ท่าเทียบเรือน้ำลึก การขนส่งทางทะเล
ทางบก ทางอากาศ และรูปร่างความเจริญอื่น ๆ ที่สอดคล้องกับลัทธิประเพณีของท้องถิ่น
ต่อจากนี้ไปเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรี หรือปลัดกระทรวง/คณะติดตามผลภายใต้การควบคุมของกระทรวงรักษา
ความมั่นคงภายใน อย่าให้ตกหล่นไปจากหลักการ
เมื่อรู้ว่าแผ่นดินอันเป็นที่รักจะถูกยื้อแย่งเอาไปไม่ว่าน้อยหรือมาก จิตที่หวงแหนย่อมจะเกิดวิตกกังวลไปต่างๆ
นานา เกรงว่าจะรักษาเอาไว้ไม่ได้
ดังนั้น จึงเห็นว่าเมื่อได้เขียนเล่าเรื่องพอประเทืองปัญญา ให้แก่ท่านผู้อ่านได้ร่วมรับรู้เอาไว้ว่าไฟใต้ ใครบงการ ?
ผมจึงอยากนำเสนอความคิดเห็นแนวทางแก้ปัญหา ดังต่อไปนี้
สรุป หรือ "ย่อ" ความผิดพลาด ๕ ประการของฝ่ายรัฐบาล
๑. คณะผู้บริหารประเทศทุกระดับ ทุกกลุ่มไม่เข้าใจทฤษฏีของพระพุทธศาสนาที่แท้จริง นั้นก็คือ "คนดี - ทำชั่ว
ได้ยาก ทำดีได้ง่าย ในมุมมองตรงกันข้าม คนชั่ว - ทำดีได้ยาก ทำชั่วได้ง่าย" ซึ่งเป็นพระพุทธพจน์ขององค์
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงทำให้ประเทศของเราตกเป็นเหยื่อของโจรชั่วที่ก่อกรรมทำบาป เพราะคนชั่วย่อมทำ
ชั่วได้ง่าย พวกเขาไม่ยอมทำความดี ไม่เลิกฆ่า
ประกอบกับคนที่ทางการส่งมาและให้ไปแก้ปัญหาที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ได้ตระหนักถึงพิษสงร้ายกาจ
อันจะเกิดจากพวกคนชั่ว หลงเชื่อว่าแนวทางของรัฐบาล จะแก้ปัญหาได้ เมื่อนำแนวคิดของรัฐบาลเอาไปปฏิบัติ
แทนที่จะเกิดผลดี กลับตกอยู่ภายใต้เล่ห์เหลี่ยมของโจร และร้ายแรงจนพากันไปติดกับโจร
๒. ความผิดพลาดอีกประการหนึ่งเกิดจาก "คำเท็จ" ที่โจรปัตตานีประกาศเสมอว่า ข้าราชการข่มเหงรังแก
คนพุทธเบียดเบียนอิสลาม รัฐบาลทุกรัฐบาลพากันออกมาแก้สถานการณ์นี้ ด้วยการประกาศว่า "ต่อไปจะดูแล
อย่างใกล้ชิด ไม่ให้ข้าราชการชั่วๆ มาข่มเหงรังแก" เมื่อรัฐบาลประกาศออกมาเช่นนี้ สื่อก็พากันเอามาเสนอ
เป็นข่าวต่อ แล้วเผยแพร่ไปทั่วประเทศ เป็นผลทำให้ "คำเท็จ" ที่โจรสร้างขึ้นมากลายเป็นความจริง ทั้งๆที่ไม่จริง
เพราะความจริงนั้น พวกโจรปัตตานีเป็นฝ่ายข่มเหงรังแกข้าราชการ ทหาร ตำรวจ
พุทธไม่ได้เบียดเบียนอิสสาม ไม่ว่ากรณีใดๆ
๓.สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นมานาน โจรปัตตานีขัดขวางพี่น้องคนไทยเชื้อสายมลายูไม่ให้ยอมรับการเป็นคนไทย ห้ามไม่
ให้เรียนภาษาไทย ห้ามพูดไทย ห้ามร้องเพลงชาติไทย ห้ามแต่งงานกับคนไทยพุทธ ห้ามไม่ให้เคารพนับถือ
สถาบันของชาติ ห้ามทุกสิ่งทุกอย่าง และแสดงออกมาอย่างเปิดเผย
ต่อมาผู้นำของประเทศเห็นดีงามกับการให้ถือสองสัญชาติได้อย่างอิสระ ประเทศไทยทำตามคำขอร้องของผู้นำ
มาเลเซีย ตกเป็นเหยื่อทางการเมือง ถูกต้มตุ๋นให้เสียท่ายากที่จะเอาคืน ไทยแก้ปัญหาด้วยการใช้เงิน "ซื้อใจ"
ใช้ประโยชน์เอามาปรนเปรอ หมายจะโน้มน้าวจิตใจไม่ให้เกลียดชังประเทศไทย โดยไม่ได้ติดตามดูความเป็น
จริง ว่าสิ่งที่ทำไปได้ผลหรือไม่ เป็นความผิดพลาดเชิงนโยบาย ที่กัดกร่อนกินเนื้อตัวเองมาเนิ่นนาน
๔. โจรปัตตานีใช้หลักการศาสนาอิสลาม เอามาเป็น"ทฤษฏีชี้นำ" (element) มีการต่อรองในทุกระดับ โจร
ปัตตานีใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือ ข่มขู่แล้วขอ ขอแล้วข่มขู่ สลับกันไปอย่างมีระบบ ทำให้ฝ่ายรัฐบาลตกเป็นเบี้ย
ล่าง อ้างว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทำให้ฝ่ายโจรปัตตานีได้โอกาสบั่นทอนความมั่นคงของพระพุทธศาสนา
ฝ่ายรัฐบาลเอง ถูกวิธีการของโจรคุกคามเอา จนเกิดความรู้สึกผิดพลาดต่อพระพุทธศาสนาของตน เกิดความรู้
สึกว่า ถ้าเข้าข้างชาวพุทธมาก จะถูกโจมตีว่าลำเอียง จนสุดท้าย โจรฆ่าพระอย่างป่าเถื่อน เยาะเย้ย ฝ่าย
รัฐบาลคงเรียกร้องให้สมานฉันท์ อันเป็นการยอมแพ้โดยปริยาย
๕. ในคณะรัฐบาลและหน่วยราชการ ทำเนียบรัฐบาล หรือ รัฐสภา หรือสภาท้องถิ่น รวมทั้งสื่อบางฉบับ เป็น
แนวร่วมของโจร เป็นไส้ศึก หรือมีหัวหน้าโจรปะปนอยู่ด้วย ตั้งแต่ระดับสูง ลงมาจนถึงระดับล่าง โจรจึงมี
ประสิทธิภาพในการวางแผนก่อวินาศกรรม ออกคำสั่งทับซ้อนจนก่อให้เกิดความผิดพลาด ก่อให้เกิดข้อขัดแย้ง
เกิดความสับสน ขลุกขลักน่าตำหนิ
สรุป หรือ "ย่อ" ความต้องการของโจรปัตตานีมี ๒ ประการ
๑. โจรปัตตานีเดินหน้าต่อสู้ "แบ่งแยกดินแดน" ทั้งในและนอกประเทศ
ได้วางเครือข่ายเอาไว้อย่างครบถ้วน และได้สร้างองคาพยพให้มีความพร้อมในหลายระดับ ที่จะจัดการให้เกิด
การเปลี่ยนแปลง โจรปัตตานีตั้งเป้า หมายเอาไว้ประการเดียว คือ การแบ่งแยกดินแดน แยกปัตตานี ยะลา
นราธิวาส ออกมาเป็นเอกราช ตั้งเป็นประเทศใหม่ขึ้นในโลก
วิธีการแบ่งแยกดินแดน จะใช้แนวหน้าเฉพาะผู้คนในพื้นที่ ๓ จังหวัด ลดจากเดิมที่เคยประกาศว่า ๔ หรือ ๕
จังหวัด เพื่อจะได้ทำให้การต่อสู้มีอำนาจรุนแรง (Violation) อย่างแท้จริง
๒. โจรปัตตานี มีวัตถุประสงค์ที่จะขยายอำนาจของอิสลามให้ขยับเข้าไปเกาะกุมพี้นที่ในทุก ส่วนของ
ประเทศไทย จึงจัดหาทุน ส่งเสริม"มุสลิม" ให้เคลื่อนย้ายครอบครัวไปอยู่ในทุกจังหวัดเอาไว้ให้ได้ แล้วจะ
ขยายไปสู่อำเภอ ลงไปสู่ตำบลและหมู่บ้าน แล้วออกมาตรการ ที่ไหนมีอิสลาม ที่นั่นจะมีสุเหร่า หรือ มัสยิด มีน
โยบายที่จะยึดหัวหาด สร้างอาณาจักรไทยให้เป็นรัฐมุสลิมให้ได้ภายใน ๑๐๐ ปีข้างหน้า หรือว่าถ้าเป็นไปไม่ได้
ก็จะต้องได้อำนาจมากกว่าครึ่ง ได้เกาะกุมระบบของประเทศ จนสามารถสร้างรัฐอิสลามในประเทศไทยได้ในที่สุด
ดังนั้นถ้าจะให้โจรสมานฉันท์ โจรต้องได้ในสิ่งที่เขาต่อสู้ถ้าจะให้โจรรับคำขอโทษ เขาจะต้องได้สิ่งที่เขาต้อง
การตอบแทนก่อนเท่านั้นและถ้าจะให้โจรเลิกการต่อสู้ เขามีคำถามอยู่แล้ว เขาได้อะไรประเทศไทยหมด
โอกาสที่จะเจรจาสงบศึก หรือว่า แม้ว่าเขาจะยอมสงบศึก...นั้นเป็นยุทธการที่ถูกวางเอาไว้ เพื่อชัยชนะใน
วันข้างหน้า
วิเคราะห์ข้อสรุป
ดังนั้น เราจึงวิเคราะห์ได้ ประเทศไทยมีความผิดพลาด แม้จะรู้ว่าเรามีความผิดพลาด เราก็ต้องทบทวนใน
ความผิดพลาดนั้น ค้นให้พบว่ามีรากเหง้ามาจากคณะราษฎร์จริงหรือไม่ ค้นต่อไปว่าการที่คณะราษฎร์ได้อำนาจ
มาจากพระเจ้าแผ่นดิน พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ คณะราษฎร์รับเอามาแต่พระราช
อำนาจทางอาณาจักร โดยไม่ได้รับเอาความผิดชอบต่อศาสนจักรมาปฏิบัติ เป็นความจริงหรือไม่
อีกท่อนหนึ่ง ที่สำคัญมากได้แก่ คณะราษฎร์ได้ทอดทิ้งพระพุทธศาสนา จนกลายเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีให้นักการ
เมืองรุ่นหลัง รวมทั้งข้าราชการทั้งหลาย ก็พลอยทอดทิ้งพระพุทธศาสนาตามไปด้วย จริงหรือไม่
วิเคราะห์อีกทีว่า หนังสือกระเทาะเปลือกไฟใต้ ใครบงการ เล่มนี้ มีมูลความจริงหรือไม่
แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง ประเทศไทยจะต้องดำเนินการแก้ไขอย่างรีบด่วนและทรงพลัง เพราะไม่มีทางอื่นให้เลือกอีกแล้ว
สรุปแนวทางแก้ปัญหา ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ๕ ประการ
๑. จะต้อง "ผ่าตัด" จัดตั้งหลักการกันใหม่ วาดภาพกว้างทั่วประเทศวิธีการจัดหลักการใหม่ คือต้องรื้อโครง
สร้างที่ไม่ดี แล้วสร้างใหม่ขึ้น ให้เป็นโครงสร้าง (Perspective) ที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาของชาติทั้ง
ระบบ เพื่อความมั่นคงทียั่งยืนถาวร ป้องกันไม่ให้ขนเผ่าใดไม่ยอมรับว่าตนเองเป็นคนไทย โครงสร้างใหม่ จะ
ต้องทำให้เกิดมิติใหม่ ทำให้คนไทยทุกชนเผ่า มีความเต็มใจที่จะเป็นคนไทยด้วยความเต็มใจ และมีความ
เลื่อมใสศรัทธาในประเทศไทย
วิธีการที่จะได้มา กล่าวคือให้คณะนักวิชาการ สร้างคู่มือขึ้นมาให้กับนักการเมืองและข้าราชการ และประชาชน
ทั้งหลาย ให้มีความรู้ในเนื้อหาของโครงสร้างใหม่ แล้วส่งเสริมให้มีการปฏิบัติอย่างเป็นระบบ เป็นการสร้าง
จารีตประเพณีให้แก่คนไทย เมื่อเกิดเป็นไทย ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติไหนมาก่อนก็ตาม จะต้องเป็นคนไทยทั้งกาย
และใจ หล่อหลอมให้เป็นคนไทยตั้งแต่เกิด เมื่อเกิดมาแล้วห้ามไม่ให้ผู้ใดปลุกปั่นยุยง ขัดขวางการเป็นคนไทย
จัดสร้างหลักสูตร สอนคนไทยให้เข้าใจชาติของตนเองว่า มีกี่ชนเผ่ารวมกันขึ้นเป็นคนไทย แล้วสอนให้รู้ว่า
ประเทศไทยมีกี่ศาสนา คนไทยทุกคนมีหน้าที่ปกป้องคุ้มครองศาสนาที่ตนรักและเคารพ ด้วยการปฏิบัติตามคำสอน
ของศาสนาให้ดีงาม คนไทยทุกคนไม่ว่าจะนับถือศาสนาไหนก็ตาม ต้องยกย่องคุ้มครองสถาบันกษัตริย์ ห้ามมิให้
ชนเผ่าใดอ้างตนเป็นอิสระ ประเทศไทยจะต้องจัดการให้คนไทยทุกเผ่า ไมให้เบียดเบียนกัน แรกเริ่มจะยุ่งยาก
เพราะเราได้ปล่อยปละละเลยมาเนิ่นนาน เมื่อวันเวลาผ่านไปไม่เกิน ๑๐ ปี ความรู้สึกคนไทยจะดีขึ้น
ประเทศไทยต้องแสดงเอกลักษณ์เทียบมาตรฐานการเป็นชนเผ่าต่างๆในโลก
ชนชาติไหนได้สวัสดิการดีที่สุด ชนชาติไหนได้มาตรฐานดีที่สุด
ถ้าชนชาติอื่นมาอยู่ประเทศไทย แล้วต่อสู้กับประเทศไทย ต้องเนรเทศออกไป
๒. จัดตั้งกระทรวงขึ้นมาใหม่กระทรวงหนึ่ง เรียกว่า กระทรวงความมั่นคงภายใน
วิธีการได้แก่ให้กระทรวงนี้บริหารความแตกต่างทางความคิด ความแตกต่างในเชื้อชาติ และความแตกต่างใน
ขนบธรรมเนียมประเพณี รัฐมนตรีและข้าราชการของกระทรวงนี้ ทำหน้าที่แก้ไขเพื่อการปูรากฐานไปสู่ “ความ
เป็นคนไทย” ที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย แล้ววางแผนสร้างคน
ไทยรุ่นต่อไปให้ยอมรับหรือกลายพันธุ์เป็นคนไทยโดยธรรมชาติ โดยไม่ต้องใช้จิตวิทยาใดเอามาเป็นเครื่องจูง
ใจอีกต่อไป
๓. ปัญหา ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้
วิธีการแก้ปัญหานี้ ถือว่าเป็นทั้งปัญหาเฉพาะหน้าและเป็นปัญหาระยะยาวของประเไทย เราถูกโจรแบ่งแยกดิน
แดนปลุกปั่นประชาชนเชื้อสายมลายูไม่ให้ยอมรับตัวเองว่าเป็นคนไทย เป็นปัญหาร้ายแรง ยากที่จะแก้ไขให้จบ
ลงได้โดยง่ายนั้น ถือว่าเป็นภัยอย่างใหญ่หลวงในระบอบการปกครองของไทย เราจะแก้โดยวิธี “โอนอ่อนผ่อน
ตาม” ต่อไปไม่ได้ หรือจะใช้ระบบเจรจาหย่าศึกก็ไม่ได้ เพราะบทสรุปปรากฎชัดออกมาแล้วว่า โจรปัตตานี
ไม่มีความปรารถนาอย่างอื่น พวกเขามีเป้าหมายต้องการแบ่งแยกดินแดนสถานเดียวเท่านั้น
ดังนั้น ทางแก้คือ กองทัพต้องเข้าไปจัดการ รัฐบาลจะต้องเอาความเข้มแข็งของกองทัพเข้าไปจัดการขั้นเด็ด
ขาด เอาโจรให้อยู่ อย่าให้โจรมีกำลังเคลื่อนไหวได้ ต้องกดดันโจรให้หยุดการกระทำ รัฐบาลต้องประกาศให้
รู้ว่าเรารู้วัตถุประสงค์อันแท้จริงของกลุ่มผู้ไม่หวังดีแล้ว เราจะปล่อยต่อไปไม่ได้
กองทัพเรือจัดตั้งฐานทัพลอยน้ำ หรือบนเกาะ-เกาะใดเกาะหนึ่ง ตรงข้ามจังหวัดปัตตานี
กองทัพอากาศ สร้างกองบินน้อยที่จังหวัดนราธิวาส
กองทัพบก สร้างค่ายทหารถาวร ในจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส
ตั้งกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนขึ้น เช่นเดียวกับจังหวัดทางภาคเหนือ
จัดตั้งกองกำลังเสือพรานขึ้นทันที
บูรณะซ่อมแซมพระราชวังทักษิณราชนิเวศน์ให้โอ่อ่าใหญ่โตขึ้น ส่วนไหนที่โจรปัตตานีเข้าไปทำลาย ให้รักษาเป็น
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
ตั้งนิคมพัฒนาตนเองให้ประชาชนนอกพื้นที่เข้าไปตั้งบ้านเรือน ทำการเกษตร
ตั้งนิคมสร้างตนเองให้ครอบครัวทหารและทหารผ่านศึก
ประกาศให้ประชาชนรับรู้ความจริง แยกประชาชนออกจากโจรให้ได้
มอบหมายให้ศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้ทุกคนได้รับทราบ แล้วรับลง
ทะเบียนราษฎรที่ยอมรับหลักการใหม่ ให้สามารถรับตัวเลขได้ชัดว่า มีคนที่แยกตัวออกมาจากโจรมากน้อยเพียงใด
รัฐบาลกับศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย จัดการประชุมและอบรมหลักสูตรสมานฉันท์ ให้สามารถปฏิบัติให้
เกิดเป็นจริงที่ยั่งยืน
ส่งเสริมให้คนไทยเลิกนำเอาศาสนามาเป็นข้อขัดแย้ง
ส่งเสริมให้ทุกคนยอมรับในิสิทธิเสรีภาพที่ทัดเทียมกัน ไม่ให้ผู้ใดเอาเปรียบคนอื่น ไม่ให้ฆ่าคนอื่น ไม่ให้เบียด
เบียนศาสนาทั้งทางตรงและทางอ้อม
เรียกร้องต่อสังคมไทยทั้งสังคมให้ตระหนักถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ประกาศประณามกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดี ที่ขัดขวางคนอื่นไม่ให้เป็นคนไทย
แล้วสร้างสังคมใหม่ (Creator sociality free of war) ให้เป็นสังคมที่ปราศจากการข่มขู่คุกคามไม่ให้
มีคนมาป่วนได้
๔. ปัญหารัฐธรรมนูญ
รัฐธรรมนูญของประเทศไทย มีปัญหาไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ทั้งนี้เนื่องจากคนร่างกับคนที่จะได้อำนาจเป็นคน
เดียวกันหรือเป็นกลุ่มเดียวกัน ทำให้รัฐธรรมนูญของประเทศไทยไม่สมประกอบ พิกลพิการ มีความสมบูรณ์ท่อน
หนึ่งแต่อีกท่อนหนึ่งไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะได้แก่รัฐธรรมนูญไม่สามารถยับยั้งคนในชาติเอารัดเอาเปรียบกันได้
รัฐธรรมนูญทุกฉบับ คนที่เป็นคนไทยโดยแท้กลายเป็นผู้ถูกเอาเปรียบ
ตัวอย่างที่เห็นได้ง่าย ชาวนาถูกฟ้องร้องยึดที่ดินได้ง่ายดาย
ชาวนาไทยกลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัย ไร้ที่ทำกิน
ในรัฐธรรมนูญก็กำหนดคุณสมบัติปริญญาตรี ซึ่งลูกหลานชาวนาหมดสิทธิ์ที่จะได้เข้าร่วมทางการเมือง ทำให้สังคม
ไทย “เห็นคนรวย” และเห็น “คนชาติอื่น” ที่เจริญกว่าเป็นที่พึ่ง จึงแห่ไปขายเสียงให้แก่พวกเขาเหล่านั้น
ดังนั้น จึงต้องจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับที่จะมีขึ้นในวันข้างหน้าอย่างดีที่สุด
เนื้อหาสาระ ประกอบด้วย ความมั่นคงของสถาบัน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
วิธีการสร้างรัฐธรรมนูญเพื่อความมั่นคง
ต้องมีหมวดว่าด้วย “ศาสนา” เอาไว้ในรัฐธรรมนูญ จะได้เป็นการประกาศอย่างเปิดเผยให้สมกับความยิ่งใหญ่
ของศาสนา
บรรจุหลักการของศาสนาทุกศาสนา คือศูนย์รวมแห่งการสร้างคุณงามความดี ส่งเสริมเอาไว้ในรัฐธรรมนูญว่า
ศาสนาคือศูนย์รวมแห่งความสมานฉันท์ที่ยั่งยืนตลอดกาล
ต้องมีหมวดว่าด้วย “ชนเผ่า” เอาไว้ในรัฐธรรมนูญ ว่าชนเผ่าเหล่านี้รวมตัวกันเข้าเป็นคนไทย ประกาศ
อาณาเขตของประเทศไทย จำนวนตารางกิโลเมตรหรือตารางไมล์ จำนวนประชากรของชนเผ่าเอาไว้ในปี
พระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แล้วยกรัฐธรรมนูญฉบับนี้มองแด่ประชาชนทั้งชาติรับเอาไปยึดถือเป็นกฎหมายสูงสุดต่อไป
๕. จัดงานฉลองความเป็นคนไทย
เมื่อสามารถจัดการกับโจรปัตตานีได้สำเร็จ สามารถทำให้ประชาชนยอมรับการเป็นคนไทยได้เมื่อใด เมื่อนั้น
ให้จัดงานฉลองขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เพื่อแสดงให้ทุกคนได้รับความอบอุ่น ความสมหวัง แสดงนิทรรศการทุกรูปแบบว่า
โครงสร้างการพัฒนาภาคใต้ทั้งภาค จะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร
ทำให้สังคมได้เห็นและได้รับรู้ว่าสถานะข้างหน้า เช่น สถานศาสนาอิสลาม พระพุทธศาสนา ระบบการศึกษา
มหาวิทยาลัย การแพทย์ การกีฬา โรงงานอุตสาหกรรม ท่าเทียบเรือน้ำลึก การขนส่งทางทะเล
ทางบก ทางอากาศ และรูปร่างความเจริญอื่น ๆ ที่สอดคล้องกับลัทธิประเพณีของท้องถิ่น
ต่อจากนี้ไปเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรี หรือปลัดกระทรวง/คณะติดตามผลภายใต้การควบคุมของกระทรวงรักษา
ความมั่นคงภายใน อย่าให้ตกหล่นไปจากหลักการ
บทที่ ๒๓ อุ้มฆ่าทนาย...สมชาย นีละไพจิตร
เชิญติดตามเรื่องต่อไป......
ในวงการต่อสู้ผู้สืบทอดอุดมการณ์มาจาก "อับดุลกาเดร์" หรือพระยาวิชิตภักดีมีมากมายหลายคนที่เอาตัวเข้ารับ
ใช้อย่างไม่หวั่นไหวว่าตัวเอง จะได้รับความลำบากหรือความทุกข์ทรมาณ เช่น โต๊ะแต, หะยีบูละ, ตวนกูอับ
ดุลยะลา หรือ "นายอดุลย์ ณ สายบุรี" เป็นต้น
เมื่อเอ่ยถึงบุคคลเหล่านี้ ผู้คนในหมู่ของโจรปัตตานีจะมีความดื่มด่ำเลื่อมใสศรัทธา พากันยกเอาไว้เป็นที่เคารพ
นับถือไม่มีวันลืม เช่นเดียวกัน เมื่อเอ่ยถึง "หะยีสุหลง อับดุลกาเดร์" โจรปัตตานี ยิ่งจะเกิดอาการขนพอง
สยองเกล้า เพราะชีวิตการต่อสู้ของ
หะยีสุหลง เป็นไปอย่างเปิดเผยและท้าทาย ดังจะเห็นได้ เขาถูกจับกุมส่งขึ้นฟ้องศาลที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
เขากล้าเผชิญ
หะยีสุหลง อับดุลกาเดร์ ติดคุกก็ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ของนักต่อสู้ที่น่ายกย่องอยู่แล้ว
เมื่อเขาถูกหลอกให้มาพบตำรวจเมืองสงขลา แล้วถูกอุ้มเอาไปถ่วงน้ำที่เกาะหนูเกาะแมว
นั่นแหละ ยิ่งได้เพิ่มดีกรีความยิ่งใหญ่ให้แก่เขาสุดเหลือประมาณ ในโอกาสเดียวกัน ใครก็ตามถ้าได้ใช้อัตตะ
ประวัติของเขาไปเป็นบทเรียนทั้งในป่า และในสถาบันการศึกษา จะสามารถอาบใจของนักศึกษาให้ตกเป็นทาส
ทางความคิดได้โดยไม่ยาก
หะยีสุหลง อับดุลกาเดร์ เป็นบิดาในยุคสงครามโลกครั้งที่สองของชาวปัตตานี ยากที่จะหาใครมาเทียบได้
หะยีสุหลงนามนี้เกริกก้องในหมู่เยาวชนกระทั่งบัดนี้
ในทำนองเดียวกัน...ทนายสมชาย นีละไพจิตร ที่ถูกอุ้มเอาไปไหนไม่รู้ จนป่านนี้ยังไม่สามารถค้นหาร่างของ
เขาพบ ทำให้คดีของเขากลายเป็นคดีมืดมนเกินกว่าจะบอกได้ว่า จะจบลงได้อย่างไร ยิ่งค้นหามากเท่าใด ยิ่ง
เป็นการเพิ่มราคาให้ทนายสมชายมากมายยิ่งขึ้น
สถานะของสมชาย นีละไพจิตรค่อยๆ เปลี่ยนจากบุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการโจรแบ่งแยกดินแดน
ขมวดเข้ามาเป็น "ตัวลำแสง" ประกบเข้ากับ
"หะยีสุหลง" และคนอื่นๆ ที่เอาชีวิตเข้าแลกกับการต่อสู้เพื่อจะปลดปล่อยปัตตานี
ตอนนี้...โจรปัตตานี ได้อาศัยเนื้อตัวและชื่อเสียง "ของทนายสมชาย" เป็นเรื่องราวปลุกระดมได้เยี่ยมยอด
เรื่องเดียวกันนี้ ทำให้ฝ่ายรัฐบาลกลายเป็นจำเลยครั้งแล้วครั้งเล่า ยากนักที่จะชำระล้างให้สะอาดขึ้นมาได้
อับดุลกาเดร์ ตวนกูอับดุลยะลา และ หะยีสุหลง คือยอดวีรบุรุษของพวกเขา
สมชาย นีละไพจิตร ก้าวพรวดเข้ามาเป็นวีรบุรุษอีกคนจึงทำให้องค์กรของโจรปัตตานีเติบใหญ่และแข็งแกร่งขึ้นทุกที
ฆ่ารายวัน...!! เหิมเกริมเกินไป ?!!!
โจรปัตตานีฆ่ารายวัน ไม่มีวี่แววจะหยุดฆ่าใครก็ห้ามโจรไม่อยู่ขณะที่โจรปัตตานี พากันฆ่ารายวัน.ปากของโจรก็
ตะโกนโหยหวน กล่าวหา ทหาร ตำรวจ เข่นฆ่าทารุณรัฐบาลไม่มีวิธีการยับยั้งโจรพวกสิทธิมนุษยชนของ
ประเทศไทยพากันเงียบ สว. ไกรศักดิ์ ชุนหะวัณ ที่เคยเต้น สว. โสภณ สุภาพงษ์ ที่เคยเต้น...น่าจะเต้นต่อ
เรียกร้องสหประชาชาติให้มาดูของจริง โจรปัตตานี ฆ่าคนพุทธทุกวัน
ผมเอารูปท่าน ผอ.(หญิง) ท่านหนึ่ง ของโรงเรียน กับชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ อีกคนหนึ่งที่ถูกโจรฆ่ากลายเป็นศพมา
พิมพ์เอาไว้ให้ดูเพื่อจะรำลึกได้ว่า เกิดเป็นคนไทย เจ้าของแผ่นดินแท้ๆ แต่ถูกโจรปัตตานีขับไล่ ถ้าไม่หนีก็จะฆ่า
แล้วก็ฆ่าจริงๆ
เมื่อโจรปัตตานีกล้าข่มเหงรังแกคนไทยเจ้าของแผ่นดินถึงจุดหนึ่ง ถ้าทหาร ตำรวจเอาไม่อยู่จะกู้ชาติได้ ต้อง
อาศัยวีรกรรมหมู่บ้านบางระจันเป็นต้นแบบ
เพื่อจะปกป้องคุ้มครองปัตตานีให้รอดพ้นจากเงื้อมมือโจรโจรปัตตานี คงเหิมเกริมคิดว่าง่ายเกินไปมันดูง่าย...
เพราะ "คนไทยหมู่บ้านบางระจัน" ยังไม่ตื่นวันไหน...หมู่บ้านบางระจันคืนชีพ...วันนั้น โลกลือไปทั้ง ๓ ภพ
ในวงการต่อสู้ผู้สืบทอดอุดมการณ์มาจาก "อับดุลกาเดร์" หรือพระยาวิชิตภักดีมีมากมายหลายคนที่เอาตัวเข้ารับ
ใช้อย่างไม่หวั่นไหวว่าตัวเอง จะได้รับความลำบากหรือความทุกข์ทรมาณ เช่น โต๊ะแต, หะยีบูละ, ตวนกูอับ
ดุลยะลา หรือ "นายอดุลย์ ณ สายบุรี" เป็นต้น
เมื่อเอ่ยถึงบุคคลเหล่านี้ ผู้คนในหมู่ของโจรปัตตานีจะมีความดื่มด่ำเลื่อมใสศรัทธา พากันยกเอาไว้เป็นที่เคารพ
นับถือไม่มีวันลืม เช่นเดียวกัน เมื่อเอ่ยถึง "หะยีสุหลง อับดุลกาเดร์" โจรปัตตานี ยิ่งจะเกิดอาการขนพอง
สยองเกล้า เพราะชีวิตการต่อสู้ของ
หะยีสุหลง เป็นไปอย่างเปิดเผยและท้าทาย ดังจะเห็นได้ เขาถูกจับกุมส่งขึ้นฟ้องศาลที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
เขากล้าเผชิญ
หะยีสุหลง อับดุลกาเดร์ ติดคุกก็ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ของนักต่อสู้ที่น่ายกย่องอยู่แล้ว
เมื่อเขาถูกหลอกให้มาพบตำรวจเมืองสงขลา แล้วถูกอุ้มเอาไปถ่วงน้ำที่เกาะหนูเกาะแมว
นั่นแหละ ยิ่งได้เพิ่มดีกรีความยิ่งใหญ่ให้แก่เขาสุดเหลือประมาณ ในโอกาสเดียวกัน ใครก็ตามถ้าได้ใช้อัตตะ
ประวัติของเขาไปเป็นบทเรียนทั้งในป่า และในสถาบันการศึกษา จะสามารถอาบใจของนักศึกษาให้ตกเป็นทาส
ทางความคิดได้โดยไม่ยาก
หะยีสุหลง อับดุลกาเดร์ เป็นบิดาในยุคสงครามโลกครั้งที่สองของชาวปัตตานี ยากที่จะหาใครมาเทียบได้
หะยีสุหลงนามนี้เกริกก้องในหมู่เยาวชนกระทั่งบัดนี้
ในทำนองเดียวกัน...ทนายสมชาย นีละไพจิตร ที่ถูกอุ้มเอาไปไหนไม่รู้ จนป่านนี้ยังไม่สามารถค้นหาร่างของ
เขาพบ ทำให้คดีของเขากลายเป็นคดีมืดมนเกินกว่าจะบอกได้ว่า จะจบลงได้อย่างไร ยิ่งค้นหามากเท่าใด ยิ่ง
เป็นการเพิ่มราคาให้ทนายสมชายมากมายยิ่งขึ้น
สถานะของสมชาย นีละไพจิตรค่อยๆ เปลี่ยนจากบุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการโจรแบ่งแยกดินแดน
ขมวดเข้ามาเป็น "ตัวลำแสง" ประกบเข้ากับ
"หะยีสุหลง" และคนอื่นๆ ที่เอาชีวิตเข้าแลกกับการต่อสู้เพื่อจะปลดปล่อยปัตตานี
ตอนนี้...โจรปัตตานี ได้อาศัยเนื้อตัวและชื่อเสียง "ของทนายสมชาย" เป็นเรื่องราวปลุกระดมได้เยี่ยมยอด
เรื่องเดียวกันนี้ ทำให้ฝ่ายรัฐบาลกลายเป็นจำเลยครั้งแล้วครั้งเล่า ยากนักที่จะชำระล้างให้สะอาดขึ้นมาได้
อับดุลกาเดร์ ตวนกูอับดุลยะลา และ หะยีสุหลง คือยอดวีรบุรุษของพวกเขา
สมชาย นีละไพจิตร ก้าวพรวดเข้ามาเป็นวีรบุรุษอีกคนจึงทำให้องค์กรของโจรปัตตานีเติบใหญ่และแข็งแกร่งขึ้นทุกที
ฆ่ารายวัน...!! เหิมเกริมเกินไป ?!!!
โจรปัตตานีฆ่ารายวัน ไม่มีวี่แววจะหยุดฆ่าใครก็ห้ามโจรไม่อยู่ขณะที่โจรปัตตานี พากันฆ่ารายวัน.ปากของโจรก็
ตะโกนโหยหวน กล่าวหา ทหาร ตำรวจ เข่นฆ่าทารุณรัฐบาลไม่มีวิธีการยับยั้งโจรพวกสิทธิมนุษยชนของ
ประเทศไทยพากันเงียบ สว. ไกรศักดิ์ ชุนหะวัณ ที่เคยเต้น สว. โสภณ สุภาพงษ์ ที่เคยเต้น...น่าจะเต้นต่อ
เรียกร้องสหประชาชาติให้มาดูของจริง โจรปัตตานี ฆ่าคนพุทธทุกวัน
ผมเอารูปท่าน ผอ.(หญิง) ท่านหนึ่ง ของโรงเรียน กับชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ อีกคนหนึ่งที่ถูกโจรฆ่ากลายเป็นศพมา
พิมพ์เอาไว้ให้ดูเพื่อจะรำลึกได้ว่า เกิดเป็นคนไทย เจ้าของแผ่นดินแท้ๆ แต่ถูกโจรปัตตานีขับไล่ ถ้าไม่หนีก็จะฆ่า
แล้วก็ฆ่าจริงๆ
เมื่อโจรปัตตานีกล้าข่มเหงรังแกคนไทยเจ้าของแผ่นดินถึงจุดหนึ่ง ถ้าทหาร ตำรวจเอาไม่อยู่จะกู้ชาติได้ ต้อง
อาศัยวีรกรรมหมู่บ้านบางระจันเป็นต้นแบบ
เพื่อจะปกป้องคุ้มครองปัตตานีให้รอดพ้นจากเงื้อมมือโจรโจรปัตตานี คงเหิมเกริมคิดว่าง่ายเกินไปมันดูง่าย...
เพราะ "คนไทยหมู่บ้านบางระจัน" ยังไม่ตื่นวันไหน...หมู่บ้านบางระจันคืนชีพ...วันนั้น โลกลือไปทั้ง ๓ ภพ
บทที่ ๒๒ โฉมหน้าผู้บงการซ่อนอยู่ ในองค์การศาสนา
ในที่สุด...โจรปัตตานีก็ได้รับความสำเร็จ ในการทำให้ทุกคนเข้าใจได้ไม่ยากว่า เจ้าภาพของการต่อสู้ "คือ
องค์กรศาสนาอิสลาม" โดยเฉพาะได้แก่ องค์กรศาสนาใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ทำหน้าที่เป็นแกนหลัก
(เป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่า องค์การอิสลามในกรุงเทพมหานคร ไม่มีบทบาทในการต่อสู้) ทำให้โฟกัสลงไปได้ว่า
ผู้นำศาสนา และผู้สอนศาสนาใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม
วิธีการของโจรปัตตานี จะอ้างอยู่ ๒ ประการ
๑) อ้างว่าประเทศไทย ปกครองปัตตานีด้วยความไม่เป็นธรรม กดขี่ข่มเหง
๒) รัฐบาลไทยข่มเหงรังแกอิสลาม...!!
โจรปัตตานี ได้อาศัย ๒ ประเด็นนี้ เป็นสาเหตุหลักก่อให้เกิดความขัดแย้ง ถ้าก่อปัญหาไม่ได้ ก็จะใช้วิธีการ "
ทำร้าย" หรือไม่ก็อาศัยวิธีการโฆษณาชวนเชื่อ ออกเอกสารกล่าวหา ทำให้สังคมมุสลิมปั่นป่วน เพราะชาวบ้าน
ได้รับฟังแต่เรื่องที่ไม่จริง
โจรปัตตานีสามารถสร้างผู้นำทางศาสนารวมทั้งครูสอนศาสนา (อุสตาส) ให้เป็นหัวหน้าในพื้นที่ต่างๆ แล้วแบ่ง
กันรับผิดชอบ ออกปฏิบัติการตามคำสั่ง และยังสามารถทำให้หัวหน้าแต่ละคนมีความดูดดื่ม เลื่อมใสศรัทธา พอก
พูนอุดมการณ์อย่างถวายหัวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือการเป็นนักรบของพระเจ้า เป็นการทำสงครามเพื่อปลดปล่อยอิสลาม
แล้วก็สร้างให้เห็นอย่างเด่นชัดว่า คนอิสลามทุกคนคือนักรบของพระเจ้า ถ้าใครไม่รบก็จะต้องให้ความช่วย
เหลืออย่างอื่นแทน หรือถ้าช่วยเหลือไม่ได้ก็ต้องยืนอยู่ข้างเดียวกัน ทุกคนต้องสาบานว่า จะต่อสู้เพื่อปลดปล่อย
ปัตตานีให้เป็นแผ่นดินของพระเจ้า โดยถือคำสาบานว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนได้เปล่งวาจาออกมาด้วยความเสียสละ
ไม่กลัวตายใดๆ ทั้งสิ้น ถือเป็นคำสัตย์สูงสุด
โจรปัตตานี ได้ใช้วิธีหลายรูปแบบ อบรมบ่มนิสัย สร้างนักรบ สร้างความกล้าหาญ ทำให้ผู้ที่ได้รับการอบรม จะ
ยินยอมพร้อมใจ มอบตัวเองเข้าไปรับใช้ โดยไม่ได้นึกแม้แต่นิดว่าแผ่นดินที่อ้างว่าจะปลดปล่อยให้เป็นแผ่นดิน
ของพระ เจ้านั้น ที่แท้ก็คือจังหวัดปัตตานีที่เป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศไทยตั้งแต่ไหนแต่ไรมา
โจรปัตตานีบิดเบือนข้อเท็จจริง ปลอมประวัติศาสตร์ ทำให้เชื่อว่าปัตตานีและอีกหลายจังหวัดเป็นส่วนหนึ่งของ
มลายู แต่ต้องเสียดินแดนให้ไทยเพราะอังกฤษเข้ามารุกราน แล้วอังกฤษก็แบ่งส่วนนี้ให้ประเทศไทยยึดครอง
เมื่อประเทศมลายูทั้งหมดได้รับเอกราชจากอังกฤษ แต่ประเทศไทยไม่ยอมให้เอกราชแก่ปัตตานีแม้เพียงตาราง
นิ้วเดียวสิ่งเหล่านี้คือการบิดเบือนข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์
ความจริงในประวัติศาสตร์นั้น ปัตตานีและอีกหลายจังหวัดในแหลมมลายู เป็นของไทยมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
เช่น ไทรบุรี เป็นต้น ปัจจุบันนี้ก็ยังมีหมู่บ้านไทยตั้งอยู่ในรัฐกลันตัน รัฐเปอร์สิส และเมืองอะโรสตาร์ หมู่บ้าน
บางหมู่บ้าน ยังมีชื่อไทย เช่น หมู่บ้านนาคา คนไทยในประเทศมาเลเซียพูดไทยสำเนียงกรุงเทพฯยังไงยังงั้น
เหมือนคนบางกอก - ไม่มีเพี้ยน (ผู้เขียนไปเยี่ยมชมหมู่บ้านเหล่านี้มาหลายครั้ง)
ประเทศไทยตะหากเสียดินแดนให้อังกฤษ เมื่ออังกฤษปล่อยมลายูให้ได้รับเอกราช แทนที่ประเทศไทยจะได้ดิน
แดนคืน กลับสูญเสียไปเลยรวมแล้ว ๕ จังหวัด เช่น จังหวัดปีนัง เป็นต้น
ดินแดนปัตตานี เป็นของประเทศไทยตั้งแต่โบราณกาล แต่เนื่องด้วยคนมลายูได้อพยพเข้ามามาก ประกอบกับนับ
ถือศาสนาอิสลาม จึงอ้างไปส่งเดชว่า ไทยปกครองปัตตานีมายาวนาน ไม่ยอมให้เอกราช
เรื่องง่ายๆ ในประวัติศาสตร์โดยแท้ แต่กลายเป็นเรื่องยุ่งยาก ถูกโจรปัตตานีแหกตา เอาไปโฆษณาชวนเชื่อ
ตั้งแต่เมือ ๕๐๐ ปี ก่อนถึงปัจจุบัน ยังไม่เลิก
วิธีการที่พวกโจรเอามาใช้อย่างได้ผลนั้น เรื่องคือการ "บิดเบือน" แล้วก็สร้างสิ่งที่บิดเปือนให้น่าเชื่อถือว่า
เป็นเรื่องจริง โจรปัตตานีได้อาศัยสถาบันของศาสนา แล้วอ้างเอาพระเจ้า หรือ "องค์อัลเลาะห์" มาเรียก
ร้องความสามัคคีจากชาวบ้าน ซึ่งเป็นอิสลามด้วยกัน
พี่น้องอิสลามผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อของโจรอิสลาม ขยายวงกว้างออกไปทุกที
โจรปัตตานีชี้ให้เห็นว่า การปกครองที่จะเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติที่แท้จริง ต้องเป็นรัฐอิสลามเท่านั้น ผู้นำ
ของประเทศ ต้องใช้หลักการของพระศาสนาบริหารประเทศชาติบ้านเมือง เมื่อปัตตานีได้รับการปลดปล่อย
คณะกรรมการจะทำการเลือกเฟ้นอย่างสำคัญที่สุด เพื่อจะสรรหาผู้นำของประเทศ
รู้กันในหมู่ชาวปัตตานี ยะลา นราธิวาส ว่ามีทางสองแพร่งที่จะต้องเลือกเดินในอนาคต แพร่งที่หนึ่ง ผู้นำสูงสุด
เลือกมาจากสายสุลต่านเก่า หรือ/แพร่งที่สอง เลือกมาจากผู้นำสูงสุดของศาสนาอิสลาม หรือจะได้รับการ
สถาปนาเป็นสุลต่านองค์แรก
วันนี้ ถ้าอยากดูโฉมหน้าของผู้บงการ กับโฉมหน้าใครถูกจองตัวให้เป็นประธานประเทศ จะไม่เหมือน...คนที
"บงการ" กับคนที่จะมาเป็น "สุลต่าน" ไม่ได้เกี่ยวกัน คนที่จะมาเป็นผู้นำหรือสุลต่าน ไม่ได้ร่วมบัญชาการรบ
แต่ได้ทำหน้าที่ในระดับสากล
คนที่บัญชาการ ก็บัญชาการรบ ทำหน้าที่ "รบ" เป็นการจำเพาะ
โฉมหน้าของผู้บงการ ที่คนไทยอยากรู้ว่าเป็นใคร(?)นั้น ถ้าต้องการรู้จริงๆ ก็ไม่เกินบ่ากว่าแรงที่จะรู้ได้ ซึ่งผู้
สันทัดกรณีได้บอกวิธีการดูเอาไว้ ดังนี้
๑. ดูได้จากสายเลือดคนใดคนหนึ่งของ "อับดุลกาเดร์" ว่ามีใครเป็นคนสายนี้?
๒. ดูได้จากสายเลือดคนใดคนหนึ่งของ "หะยีสุหลง" ว่ามีใครเป็นลูกเต้า เหล่ากอ?
สรุปแล้วมีอยู่ ๒ สายเท่านั้น ดูได้ไม่ยากเลย ดูแล้วจะร้อง "อ๋อ" คนนี้เอง ทีนี้...ถ้าอยากรู้ให้ชัด ก็ต้องค้น
หาว่า "ใคร"...คือสายเลือดของ"อับดุลกาเดร์"...? และใครคือสายเลือดของ "หะยีสุหลง" ? คนใดคน
หนึ่งใน "ต้นตระกูล" นักสู้ดังกล่าวนี้ คือจอมบงการอย่างแน่นอน และถ้าจะให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ก็ต้องวิเคราะห์ให้
ออกว่า ทั้งอับดุลกาเดร์(พ.ศ. ๒๔๔๐) เรื่องราวเมื่อ ๑๐๙ ปีก่อน และหะยีสุหลง อับดุบกาเดร์ (พ.ศ.
๒๔๙๔) เรื่องราวเมื่อ ๕๕ ปีผ่าน เป็นเชื้อสายเดียวกันหรือไม่
เมื่อวิเคราะห์อย่างนี้ ก็จะเหลือ "ผู้บงการ" อยู่หนึ่งเดียวขณะนี้มีบัญชีรายชื่อผู้บงการอยู่หลายคน เช่น มะแซ อุเซ็ง (ค่าหัว ๕ ล้านบาท)
สะแปอิง ผู้โด่งดังจากโรงเรียนธรรมวิทยา และ ดร.วัน กาเดร์ หัวหน้าขบวนการ
" เบอร์ซาตู" ตั้งอยู่ในประเทศมาเลเซีย
ไม่มีใครรู้ว่า ดร.วัน กาเดร์ เป็นลูกหลานใคร แต่การที่เขาก้าวขึ้นมาเป็น "แม่ทัพใหญ่" ควบคุมทุกขบวนการ
เอาไว้ในคอลโทรล ชื่อขบวนการของเขา ไม่ใช่เขาตั้งเอง แต่เขาได้จับเอาองค์กรจัดตั้ง ๒๓ องค์กร เข้า
มาเป็นหนึ่งเดียว จึงเรียก เบอร์ซาตู โดยไม่มีคำว่า "พูโล" พ่วงท้ายเลย เบอร์ หมายถึง "อับดับที่..."
ซาตู..หมายถึง "หนึ่ง"
ผู้สันทัดกรณีเอง ก็ไม่อาจวิเคราะห์ฐานะของ ดร.วัน กาเดร์ ได้ แต่น่าจะเชื่อว่า นายคนนี้คือกระเป๋าเงิน "
หนึ่งหมื่นล้าน" ที่เป็นผู้อุปถัมภ์ค้ำชู สร้างกองทัพพระเจ้าให้เติบโตขึ้นมา นอกจากจะเป็นกระเป๋าเงินแล้ว เขา
ยังเป็นที่ยอมรับของนักการเมืองในประเทศมาเลเซีย โดยเฉพาะคือ ท่านอดีต นายกฯ มหาเธร์
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าโฉมหน้าของจอมบงการ จะยังไม่ชัดก็ตาม ภาพได้ปรากฏชัดออกมาว่า องค์กรศาสนา
อิสลามใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือเจ้าภาพตัวจริง!!
โจรปัตตานีเองมีความจงใจทีจะให้เจ้าภาพตัวจริง คือสถาบันอิสลามใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ โจรปัตตานี
สามารถชูเอาศาสนาขึ้นมาเป็นจอมทัพ โดยพยายาม "ปั้นกรอบ" ให้เป็นภาระหน้าที่ของชาวอิสลามใน ๓
จังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น เป็นการปกป้องอิสลามจากส่วนกลางไม่ให้ได้รับผลกระทบ
แต่ในเวลาเดียวกัน ก็ได้อาศัย "พลังอิสลาม" เป็นทฤษฏีชี้นำไปในตัวเสร็จ
พร้อมกันนี้ ก็ได้ป้องกันมิให้อิสลามจากส่วนกลาง เช้ามามีบทบาทร่วมโดยเฉพาะในความเชื่อที่ว่า ถ้าได้รัฐ
ปัตตานีขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นท่านจุฬาราชมนตรี หรืออิสลามคณะใดก็ตาม ไม่ใช่ผู้ที่จะได้รับประโยชน์จากชาติที่ตั้ง
ขึ้นใหม่ในโลก
พวกเขาคิดการไกลขนาดนั้น ผมพยายามที่จะกระเทาะเปลือกให้เห็นใบหน้าจอมบงการ คือใคร ซึ่งตอนนี้ท่าน
อ่านออกได้เองแล้วว่า "คนนั้นกับคนนี้" คือจอมบงการ แม้ว่าโจรปัตตานีจะหาทางให้ ศาสนาอิสลาม เป็นเจ้า
ภาพที่แท้จริง แต่โจมบงการที่แท้จริงมิใช่ศาสนา แต่เป็นคนที่มีพละกำลัง อำนาจ
คน-คนนั้นเคยเป็นถึงรัฐมนตรี เคยเป็นนักการเมืองใหญ่
เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของกบฏปัตตานี
แล้ววันนี้...เขาบงการต่อ...ในขณะที่รัฐบาลบอกว่า ไม่รู้ว่าเป็นใคร จนถึงไข่แดงแล้วคลี่ให้ดูว่า ไฟใต้...
ใครบงการ ? เมื่อท่านอ่านจบ โปรดจำขื่อเอาไว้...โจรปัตตานีพวกนี้ ป้วนเปี้ยนอยูในแวดวงการต่อสู้ อยู่ไม่
ไกลจากตัวท่านดอกครับ
นี้คือทีวีวงจรปิด ที่สามารถฉายภาพดูได้...แต่รัฐบาลไม่ยอมฉาย...มันถึงได้มืดยังไงล่ะ
องค์กรศาสนาอิสลาม" โดยเฉพาะได้แก่ องค์กรศาสนาใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ทำหน้าที่เป็นแกนหลัก
(เป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่า องค์การอิสลามในกรุงเทพมหานคร ไม่มีบทบาทในการต่อสู้) ทำให้โฟกัสลงไปได้ว่า
ผู้นำศาสนา และผู้สอนศาสนาใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม
วิธีการของโจรปัตตานี จะอ้างอยู่ ๒ ประการ
๑) อ้างว่าประเทศไทย ปกครองปัตตานีด้วยความไม่เป็นธรรม กดขี่ข่มเหง
๒) รัฐบาลไทยข่มเหงรังแกอิสลาม...!!
โจรปัตตานี ได้อาศัย ๒ ประเด็นนี้ เป็นสาเหตุหลักก่อให้เกิดความขัดแย้ง ถ้าก่อปัญหาไม่ได้ ก็จะใช้วิธีการ "
ทำร้าย" หรือไม่ก็อาศัยวิธีการโฆษณาชวนเชื่อ ออกเอกสารกล่าวหา ทำให้สังคมมุสลิมปั่นป่วน เพราะชาวบ้าน
ได้รับฟังแต่เรื่องที่ไม่จริง
โจรปัตตานีสามารถสร้างผู้นำทางศาสนารวมทั้งครูสอนศาสนา (อุสตาส) ให้เป็นหัวหน้าในพื้นที่ต่างๆ แล้วแบ่ง
กันรับผิดชอบ ออกปฏิบัติการตามคำสั่ง และยังสามารถทำให้หัวหน้าแต่ละคนมีความดูดดื่ม เลื่อมใสศรัทธา พอก
พูนอุดมการณ์อย่างถวายหัวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือการเป็นนักรบของพระเจ้า เป็นการทำสงครามเพื่อปลดปล่อยอิสลาม
แล้วก็สร้างให้เห็นอย่างเด่นชัดว่า คนอิสลามทุกคนคือนักรบของพระเจ้า ถ้าใครไม่รบก็จะต้องให้ความช่วย
เหลืออย่างอื่นแทน หรือถ้าช่วยเหลือไม่ได้ก็ต้องยืนอยู่ข้างเดียวกัน ทุกคนต้องสาบานว่า จะต่อสู้เพื่อปลดปล่อย
ปัตตานีให้เป็นแผ่นดินของพระเจ้า โดยถือคำสาบานว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนได้เปล่งวาจาออกมาด้วยความเสียสละ
ไม่กลัวตายใดๆ ทั้งสิ้น ถือเป็นคำสัตย์สูงสุด
โจรปัตตานี ได้ใช้วิธีหลายรูปแบบ อบรมบ่มนิสัย สร้างนักรบ สร้างความกล้าหาญ ทำให้ผู้ที่ได้รับการอบรม จะ
ยินยอมพร้อมใจ มอบตัวเองเข้าไปรับใช้ โดยไม่ได้นึกแม้แต่นิดว่าแผ่นดินที่อ้างว่าจะปลดปล่อยให้เป็นแผ่นดิน
ของพระ เจ้านั้น ที่แท้ก็คือจังหวัดปัตตานีที่เป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศไทยตั้งแต่ไหนแต่ไรมา
โจรปัตตานีบิดเบือนข้อเท็จจริง ปลอมประวัติศาสตร์ ทำให้เชื่อว่าปัตตานีและอีกหลายจังหวัดเป็นส่วนหนึ่งของ
มลายู แต่ต้องเสียดินแดนให้ไทยเพราะอังกฤษเข้ามารุกราน แล้วอังกฤษก็แบ่งส่วนนี้ให้ประเทศไทยยึดครอง
เมื่อประเทศมลายูทั้งหมดได้รับเอกราชจากอังกฤษ แต่ประเทศไทยไม่ยอมให้เอกราชแก่ปัตตานีแม้เพียงตาราง
นิ้วเดียวสิ่งเหล่านี้คือการบิดเบือนข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์
ความจริงในประวัติศาสตร์นั้น ปัตตานีและอีกหลายจังหวัดในแหลมมลายู เป็นของไทยมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
เช่น ไทรบุรี เป็นต้น ปัจจุบันนี้ก็ยังมีหมู่บ้านไทยตั้งอยู่ในรัฐกลันตัน รัฐเปอร์สิส และเมืองอะโรสตาร์ หมู่บ้าน
บางหมู่บ้าน ยังมีชื่อไทย เช่น หมู่บ้านนาคา คนไทยในประเทศมาเลเซียพูดไทยสำเนียงกรุงเทพฯยังไงยังงั้น
เหมือนคนบางกอก - ไม่มีเพี้ยน (ผู้เขียนไปเยี่ยมชมหมู่บ้านเหล่านี้มาหลายครั้ง)
ประเทศไทยตะหากเสียดินแดนให้อังกฤษ เมื่ออังกฤษปล่อยมลายูให้ได้รับเอกราช แทนที่ประเทศไทยจะได้ดิน
แดนคืน กลับสูญเสียไปเลยรวมแล้ว ๕ จังหวัด เช่น จังหวัดปีนัง เป็นต้น
ดินแดนปัตตานี เป็นของประเทศไทยตั้งแต่โบราณกาล แต่เนื่องด้วยคนมลายูได้อพยพเข้ามามาก ประกอบกับนับ
ถือศาสนาอิสลาม จึงอ้างไปส่งเดชว่า ไทยปกครองปัตตานีมายาวนาน ไม่ยอมให้เอกราช
เรื่องง่ายๆ ในประวัติศาสตร์โดยแท้ แต่กลายเป็นเรื่องยุ่งยาก ถูกโจรปัตตานีแหกตา เอาไปโฆษณาชวนเชื่อ
ตั้งแต่เมือ ๕๐๐ ปี ก่อนถึงปัจจุบัน ยังไม่เลิก
วิธีการที่พวกโจรเอามาใช้อย่างได้ผลนั้น เรื่องคือการ "บิดเบือน" แล้วก็สร้างสิ่งที่บิดเปือนให้น่าเชื่อถือว่า
เป็นเรื่องจริง โจรปัตตานีได้อาศัยสถาบันของศาสนา แล้วอ้างเอาพระเจ้า หรือ "องค์อัลเลาะห์" มาเรียก
ร้องความสามัคคีจากชาวบ้าน ซึ่งเป็นอิสลามด้วยกัน
พี่น้องอิสลามผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อของโจรอิสลาม ขยายวงกว้างออกไปทุกที
โจรปัตตานีชี้ให้เห็นว่า การปกครองที่จะเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติที่แท้จริง ต้องเป็นรัฐอิสลามเท่านั้น ผู้นำ
ของประเทศ ต้องใช้หลักการของพระศาสนาบริหารประเทศชาติบ้านเมือง เมื่อปัตตานีได้รับการปลดปล่อย
คณะกรรมการจะทำการเลือกเฟ้นอย่างสำคัญที่สุด เพื่อจะสรรหาผู้นำของประเทศ
รู้กันในหมู่ชาวปัตตานี ยะลา นราธิวาส ว่ามีทางสองแพร่งที่จะต้องเลือกเดินในอนาคต แพร่งที่หนึ่ง ผู้นำสูงสุด
เลือกมาจากสายสุลต่านเก่า หรือ/แพร่งที่สอง เลือกมาจากผู้นำสูงสุดของศาสนาอิสลาม หรือจะได้รับการ
สถาปนาเป็นสุลต่านองค์แรก
วันนี้ ถ้าอยากดูโฉมหน้าของผู้บงการ กับโฉมหน้าใครถูกจองตัวให้เป็นประธานประเทศ จะไม่เหมือน...คนที
"บงการ" กับคนที่จะมาเป็น "สุลต่าน" ไม่ได้เกี่ยวกัน คนที่จะมาเป็นผู้นำหรือสุลต่าน ไม่ได้ร่วมบัญชาการรบ
แต่ได้ทำหน้าที่ในระดับสากล
คนที่บัญชาการ ก็บัญชาการรบ ทำหน้าที่ "รบ" เป็นการจำเพาะ
โฉมหน้าของผู้บงการ ที่คนไทยอยากรู้ว่าเป็นใคร(?)นั้น ถ้าต้องการรู้จริงๆ ก็ไม่เกินบ่ากว่าแรงที่จะรู้ได้ ซึ่งผู้
สันทัดกรณีได้บอกวิธีการดูเอาไว้ ดังนี้
๑. ดูได้จากสายเลือดคนใดคนหนึ่งของ "อับดุลกาเดร์" ว่ามีใครเป็นคนสายนี้?
๒. ดูได้จากสายเลือดคนใดคนหนึ่งของ "หะยีสุหลง" ว่ามีใครเป็นลูกเต้า เหล่ากอ?
สรุปแล้วมีอยู่ ๒ สายเท่านั้น ดูได้ไม่ยากเลย ดูแล้วจะร้อง "อ๋อ" คนนี้เอง ทีนี้...ถ้าอยากรู้ให้ชัด ก็ต้องค้น
หาว่า "ใคร"...คือสายเลือดของ"อับดุลกาเดร์"...? และใครคือสายเลือดของ "หะยีสุหลง" ? คนใดคน
หนึ่งใน "ต้นตระกูล" นักสู้ดังกล่าวนี้ คือจอมบงการอย่างแน่นอน และถ้าจะให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ก็ต้องวิเคราะห์ให้
ออกว่า ทั้งอับดุลกาเดร์(พ.ศ. ๒๔๔๐) เรื่องราวเมื่อ ๑๐๙ ปีก่อน และหะยีสุหลง อับดุบกาเดร์ (พ.ศ.
๒๔๙๔) เรื่องราวเมื่อ ๕๕ ปีผ่าน เป็นเชื้อสายเดียวกันหรือไม่
เมื่อวิเคราะห์อย่างนี้ ก็จะเหลือ "ผู้บงการ" อยู่หนึ่งเดียวขณะนี้มีบัญชีรายชื่อผู้บงการอยู่หลายคน เช่น มะแซ อุเซ็ง (ค่าหัว ๕ ล้านบาท)
สะแปอิง ผู้โด่งดังจากโรงเรียนธรรมวิทยา และ ดร.วัน กาเดร์ หัวหน้าขบวนการ
" เบอร์ซาตู" ตั้งอยู่ในประเทศมาเลเซีย
ไม่มีใครรู้ว่า ดร.วัน กาเดร์ เป็นลูกหลานใคร แต่การที่เขาก้าวขึ้นมาเป็น "แม่ทัพใหญ่" ควบคุมทุกขบวนการ
เอาไว้ในคอลโทรล ชื่อขบวนการของเขา ไม่ใช่เขาตั้งเอง แต่เขาได้จับเอาองค์กรจัดตั้ง ๒๓ องค์กร เข้า
มาเป็นหนึ่งเดียว จึงเรียก เบอร์ซาตู โดยไม่มีคำว่า "พูโล" พ่วงท้ายเลย เบอร์ หมายถึง "อับดับที่..."
ซาตู..หมายถึง "หนึ่ง"
ผู้สันทัดกรณีเอง ก็ไม่อาจวิเคราะห์ฐานะของ ดร.วัน กาเดร์ ได้ แต่น่าจะเชื่อว่า นายคนนี้คือกระเป๋าเงิน "
หนึ่งหมื่นล้าน" ที่เป็นผู้อุปถัมภ์ค้ำชู สร้างกองทัพพระเจ้าให้เติบโตขึ้นมา นอกจากจะเป็นกระเป๋าเงินแล้ว เขา
ยังเป็นที่ยอมรับของนักการเมืองในประเทศมาเลเซีย โดยเฉพาะคือ ท่านอดีต นายกฯ มหาเธร์
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าโฉมหน้าของจอมบงการ จะยังไม่ชัดก็ตาม ภาพได้ปรากฏชัดออกมาว่า องค์กรศาสนา
อิสลามใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือเจ้าภาพตัวจริง!!
โจรปัตตานีเองมีความจงใจทีจะให้เจ้าภาพตัวจริง คือสถาบันอิสลามใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ โจรปัตตานี
สามารถชูเอาศาสนาขึ้นมาเป็นจอมทัพ โดยพยายาม "ปั้นกรอบ" ให้เป็นภาระหน้าที่ของชาวอิสลามใน ๓
จังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น เป็นการปกป้องอิสลามจากส่วนกลางไม่ให้ได้รับผลกระทบ
แต่ในเวลาเดียวกัน ก็ได้อาศัย "พลังอิสลาม" เป็นทฤษฏีชี้นำไปในตัวเสร็จ
พร้อมกันนี้ ก็ได้ป้องกันมิให้อิสลามจากส่วนกลาง เช้ามามีบทบาทร่วมโดยเฉพาะในความเชื่อที่ว่า ถ้าได้รัฐ
ปัตตานีขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นท่านจุฬาราชมนตรี หรืออิสลามคณะใดก็ตาม ไม่ใช่ผู้ที่จะได้รับประโยชน์จากชาติที่ตั้ง
ขึ้นใหม่ในโลก
พวกเขาคิดการไกลขนาดนั้น ผมพยายามที่จะกระเทาะเปลือกให้เห็นใบหน้าจอมบงการ คือใคร ซึ่งตอนนี้ท่าน
อ่านออกได้เองแล้วว่า "คนนั้นกับคนนี้" คือจอมบงการ แม้ว่าโจรปัตตานีจะหาทางให้ ศาสนาอิสลาม เป็นเจ้า
ภาพที่แท้จริง แต่โจมบงการที่แท้จริงมิใช่ศาสนา แต่เป็นคนที่มีพละกำลัง อำนาจ
คน-คนนั้นเคยเป็นถึงรัฐมนตรี เคยเป็นนักการเมืองใหญ่
เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของกบฏปัตตานี
แล้ววันนี้...เขาบงการต่อ...ในขณะที่รัฐบาลบอกว่า ไม่รู้ว่าเป็นใคร จนถึงไข่แดงแล้วคลี่ให้ดูว่า ไฟใต้...
ใครบงการ ? เมื่อท่านอ่านจบ โปรดจำขื่อเอาไว้...โจรปัตตานีพวกนี้ ป้วนเปี้ยนอยูในแวดวงการต่อสู้ อยู่ไม่
ไกลจากตัวท่านดอกครับ
นี้คือทีวีวงจรปิด ที่สามารถฉายภาพดูได้...แต่รัฐบาลไม่ยอมฉาย...มันถึงได้มืดยังไงล่ะ
บทที่ ๒๑ คีย์แมนโทน...แฉวิธีโจรจะยึดเมือง
............ผมโทรไปหา "คีย์แมนโทน" ซึ่งตอนนี้ ได้แยกย้ายกลับบ้านตั้งแต่ โรงแยกแก๊สก่อสร้างแล้ว
เสร็จใหม่ๆ ด้วยเหตุว่าผมยังคงติดต่อกับคีย์แมนโทนเป็นระยะ ทำให้ผมได้ทราบเรื่องราว ความดุเดือดเลือด
พล่าน ของพวกโจรปัตตานี พอที่จะประมวลได้
ครั้งหลังสุด ผมยกหูโทรเมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๙ ผมบอกว่า ผมหางานรับเหมาใหม่ที่อำเภอจะนะ ห่าง
จากที่เดิม ๑๐ กม.ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง ซึ่งขณะนี้บริษัทชิโน-ไทย เป็นผู้รับเหมาใหญ่ รับต่อมาจากบริษัทเมรูเบนี
(ญี่ปุ่น) มีบริษัทเล็กๆรับเหมาช่วงอีกหลายบริษัท โครงการนี้เป็นโครงการโรงงานไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต
เขาอยากได้งานทำ จึงรับปากจะรีปไปพบผม
คีย์แมนโทนบอกให้ผมรอพบหน่อย เขาต้องการพบผมเพื่อจะหางานทำ จะไปพบผมที่อำเภอหาดใหญ่ เขาจะมี
เวลาช่วงเช้าตั้งแต่ ๑๐.๐๐ น. ถึง ๑๔.๐๐ น แล้วจะรับกลับ
ผมรับปากด้วยความดีใจที่จะได้พบโทน ตั้งใจจะต้องหาคำตอบ และจะต้องหางานให้เขาทำ ไม่เช่นนั้นก็จะทำ
ให้เขาเกิดเข้าใจผิดว่า ผมอยากรู้เรื่องภาคใต้มากเกินไป
แต่ไม่นาน...หลังจากหนังสือเล่มนี้พิมพ์เผยแพร่...
ถึงเวลานั้น จะไม่มีอะไรปิดบังอีกแล้ว...เขาต้องรู้ "ตัวจริง" ของผมจนได้
ผมนั่งรออยู่ห้องพัก ขณะนั่งรอ ผมได้เขียนต้นฉบับให้ นสพ. บ้านเมือง อีก ๒ ตอน เป็นเรื่อง "ยะลา
วิกฤติ" กับเรื่องประวัติความเป็นมาของโจรปัตตานี แล้วผมก็ส่งให้ "คุณวิเชียร อินจนา" หน.บก.บ้านเมือง
อีกไม่นาน คีย์แมนโทนก็โผล่เข้ามาในห้อง
คีย์แมนโทนถามเรื่องงาน ผมบอกเขาว่า "คุณช้าง" นายช่างคนเดิม ทำงานอยู่โรงไฟฟ้า จะนะ เพิ่งจะ
ลงมือ ถ้าโทนอยากทำงาน จะฝากให้ เขาบอกว่าเขาอยากทำ ผมจึงต่อโทรศัพท์ถึงคุณช้างที่โรงไฟฟ้า ฝาก
งานให้เขาทำได้โดยไม่ยาก
ผมถือโอกาสนั้นสอบถามเรื่องราวโจรปัตตานี เขาเล่าให้ฟังอย่างไม่ปิดบังเหมือนเช่นเคย โดยได้นำความน่า
กลัวว่าจะเกิดเหตุรุนแรง...เขาบอกว่าโจรก่อการร้ายได้ส้อง สุมกำลังผู้คนเอาไว้ แบ่งเป็น ๓ กลุ่ม กำหนด
ดีเดย์ก่อนสิ้นปี ๒๕๔๙ หรืออย่างช้า ต้นปี ๒๕๕๐
กลุ่มที่หนึ่ง เป็นหน่วยกล้าตาย จบวิทยายุทธ์มาจากต่างประเทศ ภายใต้การนำของหัวหน้าโจร ใช้ชื่อจัดตั้งว่า
"ดอเยาะ" ดอเยาะรับบัญชามาจากสะแปอิง เจ้าของโรงเรียนธรรมวิทยา
คนของดอเยาะส่วนหนึ่ง มาจากอาเจะห์ เป็นนักรบชั้นแนวหน้า
ทั้งสองกองกำลัง มีการเตรียมพร้อมที่จะก่อความไม่สงบขั้นรุนแรง
กลุ่มที่สอง มีหัวหน้าโจรชื่อ "มะแซ อุเซ็ง" ค่าหัว ๕ ล้านบาท มะแซ อุเซ็ง มีอำนาจใหญ่โตมาก ถ้าพวกโจร
ปัตตานีได้รับชัยชนะ มะแซ อุเซ็ง จะได้รับตำแหน่ง ผบ.ทบ. และจะได้เป็นรัฐมนตรีว่า กระทรวงกลาโหม
กลุ่มที่ ๓ มีหัวหน้ามากมายหลายคน รวบรวมกองกำลังหญิงและเด็กเอาไว้ขึ้นยึดที่ทำการของรัฐ เช่น สถานี
ตำรวจ สถานีอนามัย โรงพยาบาล สำนักงาน อบต. ที่ว่าการอำเภอ ศาลากลางจังหวัด ศาล วัด ศาลาประชาคม
มีเป้าหมายจะปิดล้อมค่ายทหาร และตำรวจ บังคับให้ยอมจำนนโจรจะบุกเข้ายึดพระราชวังทักษิณราชนิเวศน์ แล้วจะใช้เป็นที่ประกาศเอกราช....
คีย์แมนโทนบอกต่อไปว่า ถ้าแผนการต่างๆไม่สามารถไปสู่เป้าหมายได้ โจรปัตตานีจะใช้วิธีก่อกวนทำความเสีย
หายให้เกิดขึ้นจนทนไม่ไหว การฆ่าตัดคอ เผาดิบ หรือเอามีดเชือดให้เป็นคดีฮือฮา ทำลายความศรัทธาของ
ประชาชนว่า รัฐไม่มีความสามารถทำให้ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้สงบลงได้ จะทำให้เกิดความกดดันในรูป
แบบต่างๆ หนักหน่วงยิ่งขึ้น
มีเรื่องจริงที่โจรทำได้แล้วในวันนี้ (๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๙) ได้แก่การยึดอำนาจรัฐได้สำเร็จ โจรสามารถ
ควบคุมมวลชนได้ครบทุกพื้นที่ พวกข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และคนพุทธกลายเป็น "ตุ๊กตาไขลาน" เดินกะ
ย่องกะแย่งเหมือนคนตายทั้งเป็น
เรื่องจริงอีกเรื่อง ได้แก่ ไม่มีใครรู้ว่า "หัวหน้าบงการใหญ่" อยู่เบื้องหลังคือใคร
คีย์แมนโทน บอกว่า ฝ่ายราชการเพ่งเล็งไปที่สะแปอิง โรงเรียนธรรมวิทยา ว่าเป็นหัวหน้าโจร
จะว่าสะแปอิงก็ใช่ เพราะว่าผู้ที่จะถูกเปิดตัวให้เป็นผู้นำสูงสุด ในวันประกาศตั้งรัฐปัตตานี ได้แก่ "สะแปอิง"
อย่างแน่นอน สะแปอิง มีฐานะทางสังคมสร้างเอาไว้สูง ฝีก "นักรบ" เอาไว้มาก พวกนักรบของสะแปอิง
เป็นนักเรียนนักศึกษาระดับเยาว์วัย สมัยหนึ่งเคยมีภาพหลุดรอดออกมาว่า เป็นภาพฝีกการรบในป่า หนังสือพิมพ์
เอาไปลงข่าวฮือฮา
ต่อมาไม่กี่วัน..มีข่าวออกมาจากหน่วยเหนือว่า เป็นภาพนักเรียนแต่งแฟนซี
ไม่ใช่เป็นภาพนักศึกษาฝีกอาวุธ...
แส่ดงให้เห็นว่า "ไส้ศึก" ทำงานสกัดกั้นเพื่อปกป้องพวกเขาอย่างได้ผล
อย่างไรก็ตาม มนต์ขลังที่จะได้ใครมาเป็นผู้นำของประเทศที่แท้จริงนั้น เป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง ตอนนั้น จะมีหัวหน้า
ใหญ่ "เบอร์ซาตู ชื้อ ดร.วัน กาเดร์" จากกัวลาลัมเปอร์ รวมทั้งหัวหน้าใหญ่จาก ซ่าอุดิอาระเบีย หรือ กลุ่ม
ประเทศอาหรับทั้งหมด หรือต่อไปถึงหัวหน้าใหญ่ในประเทศสวีเดน อเมริกา และ ยุโรป จะพากันลงมติว่า จะ
เลือกใครมาเป็น " สุลต่านองค์แรก"
รัชทายาทราชวงค์ที่แท้จริงของเชื้อสายสุลต่าน...ถูกเก็บเอาไว้ในความลี้ลับ
เขาลือกันว่าประดาแกนนำต่างๆ รู้กันแล้วว่าเป็นใคร
คีย์แมนโทนบอกว่า ในเบื้องต้นนี้ ขั้นตอนที่สำคัญคือ กำลังอยู่ในข่วงของการเตรียมยึดเมืองให้เป็นที่เปิดเผย
ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะยึดอย่างไร จึงจะทำให้เป็นที่เปิดเผยได้
สถานการณ์ในเวลานี้ จึงอยู่ในทาง ๒ ปัญหา
ปัญหาที่หนึ่ง - ขณะนี้โจรยึดอำนาจรัฐได้แล้วเกือบหมด แต่ยังไม่มีทางประกาศเปิดเผยได้
ปัญหาที่สอง - โจรกำลังวางแผนขั้นแตกหัก หาทาง "ยึดเมือง" แล้วประกาศแก่ชาวโลกได้
คีย์แมนโทนบอกว่า พวกแกนนำเขาคิดหาหนทางใน ๒ ปัญหานี้อยู่ อันหมายถึงประชาชน ยังคงไปไหนมาไหนได้
สะดวก เพราะเป็นอิสลามอยู่ในกลุ่มแนวร่วมของโจรปัตตานี ลักษณะเช่นนี้แหละ ที่แสดงว่าโจรยึดเมืองได้แล้ว
แต่เป็นที่รู้กันในหมู่ประชาชนเท่านั้น ยังไม่ได้ประกาศให้ชาวโลกรู้ พวกเขากำลังหาหนทางประกาศอยู่
โทนบอกว่าเขาสงสารและรู้สึกเห็นใจคนพุทธ แต่จะทำอย่างไรได้ มันใหญ่โตเกินไปที่คนอย่างเขาจะออกความเห็น
ผมเดินลงมาส่งคีย์แมนโทนที่ลานจอดรถ เขาขับรถออกไปด้วยท่าทางสดชื่นแจ่มใส ไม่มีแววรับทุกข์อะไรเลย
ตรงกันข้ามกับชาวหาดใหญ่ทั้งหลาย พากันตกอยู่ในอาการขรึมซึมเศร้าฝังลึก บางคนบอกกับผมว่า ชีวิตไม่
ปลอดภัย ถ้าโจรปัตตานีได้ ๓ จังหวัด มันจะกระทบร้ายแรงถึง ๕ - ๖ จังหวัด ภูเก็ต เกาะสมุย เกาะ
สาหร่าย เกาะลันตา...หรือเกาะตะรุเตา ฉิบหายหมด
อ่าวไทย หรืออันดามัน...เสร็จมัน..
ผมบอกกับชาวหาดใหญ่ที่รักกันว่า...เป็นไปไม่ได้
ชาวหาดใหญ่ตอกกลับผมว่า...รัฐบาลก็พูดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่มันกำลังจะเป็นไป
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผมเงียบอึ้งเลย...
เสร็จใหม่ๆ ด้วยเหตุว่าผมยังคงติดต่อกับคีย์แมนโทนเป็นระยะ ทำให้ผมได้ทราบเรื่องราว ความดุเดือดเลือด
พล่าน ของพวกโจรปัตตานี พอที่จะประมวลได้
ครั้งหลังสุด ผมยกหูโทรเมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๙ ผมบอกว่า ผมหางานรับเหมาใหม่ที่อำเภอจะนะ ห่าง
จากที่เดิม ๑๐ กม.ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง ซึ่งขณะนี้บริษัทชิโน-ไทย เป็นผู้รับเหมาใหญ่ รับต่อมาจากบริษัทเมรูเบนี
(ญี่ปุ่น) มีบริษัทเล็กๆรับเหมาช่วงอีกหลายบริษัท โครงการนี้เป็นโครงการโรงงานไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต
เขาอยากได้งานทำ จึงรับปากจะรีปไปพบผม
คีย์แมนโทนบอกให้ผมรอพบหน่อย เขาต้องการพบผมเพื่อจะหางานทำ จะไปพบผมที่อำเภอหาดใหญ่ เขาจะมี
เวลาช่วงเช้าตั้งแต่ ๑๐.๐๐ น. ถึง ๑๔.๐๐ น แล้วจะรับกลับ
ผมรับปากด้วยความดีใจที่จะได้พบโทน ตั้งใจจะต้องหาคำตอบ และจะต้องหางานให้เขาทำ ไม่เช่นนั้นก็จะทำ
ให้เขาเกิดเข้าใจผิดว่า ผมอยากรู้เรื่องภาคใต้มากเกินไป
แต่ไม่นาน...หลังจากหนังสือเล่มนี้พิมพ์เผยแพร่...
ถึงเวลานั้น จะไม่มีอะไรปิดบังอีกแล้ว...เขาต้องรู้ "ตัวจริง" ของผมจนได้
ผมนั่งรออยู่ห้องพัก ขณะนั่งรอ ผมได้เขียนต้นฉบับให้ นสพ. บ้านเมือง อีก ๒ ตอน เป็นเรื่อง "ยะลา
วิกฤติ" กับเรื่องประวัติความเป็นมาของโจรปัตตานี แล้วผมก็ส่งให้ "คุณวิเชียร อินจนา" หน.บก.บ้านเมือง
อีกไม่นาน คีย์แมนโทนก็โผล่เข้ามาในห้อง
คีย์แมนโทนถามเรื่องงาน ผมบอกเขาว่า "คุณช้าง" นายช่างคนเดิม ทำงานอยู่โรงไฟฟ้า จะนะ เพิ่งจะ
ลงมือ ถ้าโทนอยากทำงาน จะฝากให้ เขาบอกว่าเขาอยากทำ ผมจึงต่อโทรศัพท์ถึงคุณช้างที่โรงไฟฟ้า ฝาก
งานให้เขาทำได้โดยไม่ยาก
ผมถือโอกาสนั้นสอบถามเรื่องราวโจรปัตตานี เขาเล่าให้ฟังอย่างไม่ปิดบังเหมือนเช่นเคย โดยได้นำความน่า
กลัวว่าจะเกิดเหตุรุนแรง...เขาบอกว่าโจรก่อการร้ายได้ส้อง สุมกำลังผู้คนเอาไว้ แบ่งเป็น ๓ กลุ่ม กำหนด
ดีเดย์ก่อนสิ้นปี ๒๕๔๙ หรืออย่างช้า ต้นปี ๒๕๕๐
กลุ่มที่หนึ่ง เป็นหน่วยกล้าตาย จบวิทยายุทธ์มาจากต่างประเทศ ภายใต้การนำของหัวหน้าโจร ใช้ชื่อจัดตั้งว่า
"ดอเยาะ" ดอเยาะรับบัญชามาจากสะแปอิง เจ้าของโรงเรียนธรรมวิทยา
คนของดอเยาะส่วนหนึ่ง มาจากอาเจะห์ เป็นนักรบชั้นแนวหน้า
ทั้งสองกองกำลัง มีการเตรียมพร้อมที่จะก่อความไม่สงบขั้นรุนแรง
กลุ่มที่สอง มีหัวหน้าโจรชื่อ "มะแซ อุเซ็ง" ค่าหัว ๕ ล้านบาท มะแซ อุเซ็ง มีอำนาจใหญ่โตมาก ถ้าพวกโจร
ปัตตานีได้รับชัยชนะ มะแซ อุเซ็ง จะได้รับตำแหน่ง ผบ.ทบ. และจะได้เป็นรัฐมนตรีว่า กระทรวงกลาโหม
กลุ่มที่ ๓ มีหัวหน้ามากมายหลายคน รวบรวมกองกำลังหญิงและเด็กเอาไว้ขึ้นยึดที่ทำการของรัฐ เช่น สถานี
ตำรวจ สถานีอนามัย โรงพยาบาล สำนักงาน อบต. ที่ว่าการอำเภอ ศาลากลางจังหวัด ศาล วัด ศาลาประชาคม
มีเป้าหมายจะปิดล้อมค่ายทหาร และตำรวจ บังคับให้ยอมจำนนโจรจะบุกเข้ายึดพระราชวังทักษิณราชนิเวศน์ แล้วจะใช้เป็นที่ประกาศเอกราช....
คีย์แมนโทนบอกต่อไปว่า ถ้าแผนการต่างๆไม่สามารถไปสู่เป้าหมายได้ โจรปัตตานีจะใช้วิธีก่อกวนทำความเสีย
หายให้เกิดขึ้นจนทนไม่ไหว การฆ่าตัดคอ เผาดิบ หรือเอามีดเชือดให้เป็นคดีฮือฮา ทำลายความศรัทธาของ
ประชาชนว่า รัฐไม่มีความสามารถทำให้ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้สงบลงได้ จะทำให้เกิดความกดดันในรูป
แบบต่างๆ หนักหน่วงยิ่งขึ้น
มีเรื่องจริงที่โจรทำได้แล้วในวันนี้ (๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๙) ได้แก่การยึดอำนาจรัฐได้สำเร็จ โจรสามารถ
ควบคุมมวลชนได้ครบทุกพื้นที่ พวกข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และคนพุทธกลายเป็น "ตุ๊กตาไขลาน" เดินกะ
ย่องกะแย่งเหมือนคนตายทั้งเป็น
เรื่องจริงอีกเรื่อง ได้แก่ ไม่มีใครรู้ว่า "หัวหน้าบงการใหญ่" อยู่เบื้องหลังคือใคร
คีย์แมนโทน บอกว่า ฝ่ายราชการเพ่งเล็งไปที่สะแปอิง โรงเรียนธรรมวิทยา ว่าเป็นหัวหน้าโจร
จะว่าสะแปอิงก็ใช่ เพราะว่าผู้ที่จะถูกเปิดตัวให้เป็นผู้นำสูงสุด ในวันประกาศตั้งรัฐปัตตานี ได้แก่ "สะแปอิง"
อย่างแน่นอน สะแปอิง มีฐานะทางสังคมสร้างเอาไว้สูง ฝีก "นักรบ" เอาไว้มาก พวกนักรบของสะแปอิง
เป็นนักเรียนนักศึกษาระดับเยาว์วัย สมัยหนึ่งเคยมีภาพหลุดรอดออกมาว่า เป็นภาพฝีกการรบในป่า หนังสือพิมพ์
เอาไปลงข่าวฮือฮา
ต่อมาไม่กี่วัน..มีข่าวออกมาจากหน่วยเหนือว่า เป็นภาพนักเรียนแต่งแฟนซี
ไม่ใช่เป็นภาพนักศึกษาฝีกอาวุธ...
แส่ดงให้เห็นว่า "ไส้ศึก" ทำงานสกัดกั้นเพื่อปกป้องพวกเขาอย่างได้ผล
อย่างไรก็ตาม มนต์ขลังที่จะได้ใครมาเป็นผู้นำของประเทศที่แท้จริงนั้น เป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง ตอนนั้น จะมีหัวหน้า
ใหญ่ "เบอร์ซาตู ชื้อ ดร.วัน กาเดร์" จากกัวลาลัมเปอร์ รวมทั้งหัวหน้าใหญ่จาก ซ่าอุดิอาระเบีย หรือ กลุ่ม
ประเทศอาหรับทั้งหมด หรือต่อไปถึงหัวหน้าใหญ่ในประเทศสวีเดน อเมริกา และ ยุโรป จะพากันลงมติว่า จะ
เลือกใครมาเป็น " สุลต่านองค์แรก"
รัชทายาทราชวงค์ที่แท้จริงของเชื้อสายสุลต่าน...ถูกเก็บเอาไว้ในความลี้ลับ
เขาลือกันว่าประดาแกนนำต่างๆ รู้กันแล้วว่าเป็นใคร
คีย์แมนโทนบอกว่า ในเบื้องต้นนี้ ขั้นตอนที่สำคัญคือ กำลังอยู่ในข่วงของการเตรียมยึดเมืองให้เป็นที่เปิดเผย
ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะยึดอย่างไร จึงจะทำให้เป็นที่เปิดเผยได้
สถานการณ์ในเวลานี้ จึงอยู่ในทาง ๒ ปัญหา
ปัญหาที่หนึ่ง - ขณะนี้โจรยึดอำนาจรัฐได้แล้วเกือบหมด แต่ยังไม่มีทางประกาศเปิดเผยได้
ปัญหาที่สอง - โจรกำลังวางแผนขั้นแตกหัก หาทาง "ยึดเมือง" แล้วประกาศแก่ชาวโลกได้
คีย์แมนโทนบอกว่า พวกแกนนำเขาคิดหาหนทางใน ๒ ปัญหานี้อยู่ อันหมายถึงประชาชน ยังคงไปไหนมาไหนได้
สะดวก เพราะเป็นอิสลามอยู่ในกลุ่มแนวร่วมของโจรปัตตานี ลักษณะเช่นนี้แหละ ที่แสดงว่าโจรยึดเมืองได้แล้ว
แต่เป็นที่รู้กันในหมู่ประชาชนเท่านั้น ยังไม่ได้ประกาศให้ชาวโลกรู้ พวกเขากำลังหาหนทางประกาศอยู่
โทนบอกว่าเขาสงสารและรู้สึกเห็นใจคนพุทธ แต่จะทำอย่างไรได้ มันใหญ่โตเกินไปที่คนอย่างเขาจะออกความเห็น
ผมเดินลงมาส่งคีย์แมนโทนที่ลานจอดรถ เขาขับรถออกไปด้วยท่าทางสดชื่นแจ่มใส ไม่มีแววรับทุกข์อะไรเลย
ตรงกันข้ามกับชาวหาดใหญ่ทั้งหลาย พากันตกอยู่ในอาการขรึมซึมเศร้าฝังลึก บางคนบอกกับผมว่า ชีวิตไม่
ปลอดภัย ถ้าโจรปัตตานีได้ ๓ จังหวัด มันจะกระทบร้ายแรงถึง ๕ - ๖ จังหวัด ภูเก็ต เกาะสมุย เกาะ
สาหร่าย เกาะลันตา...หรือเกาะตะรุเตา ฉิบหายหมด
อ่าวไทย หรืออันดามัน...เสร็จมัน..
ผมบอกกับชาวหาดใหญ่ที่รักกันว่า...เป็นไปไม่ได้
ชาวหาดใหญ่ตอกกลับผมว่า...รัฐบาลก็พูดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่มันกำลังจะเป็นไป
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผมเงียบอึ้งเลย...
บทที่ ๒๐ จากกรือเซะ ถึง ตากใบ
เรื่องราวที่น่าสะเทือนใจไม่มีใครอยากให้เกิด มันก็เกิด
อันนั้นได้แก่กรณี กรือเซะ และตากใบ
หนังสือเล่มนี้จะยังไม่เขียนถึงรายละเอียดของปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะมันจะนำไปสู่ข้อขัดแย้งมากขึ้น มากกว่าจะ
เป็นผลดี ผมจะสรุปเพียงสั้นๆว่า เมื่อเกิดการปล้นปีนค่ายทหารพัฒนา อำเภอเจาะไอร้อง...๔ มกราคม ๒๕๔๗
ทำให้สถานที่ราชการที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ร้อนระอุขึ้นมา
เมื่อมีกลุ่มผู้ไม่หวังดี บุกโจมตีเจ้าหน้าที่แล้วหนีเข้าไปหลบซ่อนตัวในสุเหร่ากรือเซะ ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ทหารยกกำลังตามเข้าไปล้อมเอาไว้จนเกือบค่ำทำให้ทหารวิตกว่า ถ้าปล่อยให้ตะวันตกดิน สถานการณ์จะพลิก
ผันอย่างแน่นอน ทหารจึงบุกเข้าจับ แล้วเกิดยิงกันขึ้น ทำให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีถูกจับตายเรียบในสุเหร่า
มันได้กลายเป็นบาดแผลร้ายกาจบาดหมางใจ กินใจกันรุนแรงอีกคำรบหนึ่ง
ได้เกิดวิพากย์วิจารณ์ และตำหนิติเตียนในสื่อและสังคมการเมืองของประเทศไทยว่า "ทหารทำรุนแรงเกินเหตุ"
ผู้สันทัดกรณีกล่าวว่า กลุ่มผู้ไม่หวังดี ได้กระทำรุนแรง เข่นฆ่าผู้คนอย่างไร้ความปราณี เมือทหาร ตำรวจเข้า
ไประงับเหตุ กลุ่มผู้ไม่หวังดี ไม่ยินยอมให้จับกุม เมื่อเป็นเช่นนี้ ทางออกสุดท้ายจึงต้องเป็นเช่นนี้ ถ้า
ไม่ปฏิบัติเช่นนี้ จะให้ทำอย่างไรเช่นเดียวกัน กรณีตากใบ ก็ไม่แตกต่างจากกรณีอื่น
ทหาร ตำรวจ ไม่มีทางออกอื่นใดที่จะทำให้เหตุการณ์สงบลงได้ วิธีแก้คือต้องจับกุมคุมตัวผู้ก่อความไม่สงบ เพื่อ
จะเอาไปสอบสวน แต่ได้เกิดความผิดพลาดขึ้นมา ทำให้มีคนขาดอากาศหายใจ ล้มตายลงเป็นจำนวนมาก ในที่
สุดก็มีคนรุมประนามทหาร
ผู้สันทัดกรณีกล่าวว่า แม้ทหาร ตำรวจ จะพยายามทำแบบอะลุ้มอะล่วย หรือกระทำอย่างเฉียบขาดรุนแรงก็ตาม
ก็ไม่อาจทำให้กลุ่มผู้ไม่หวังดี "ยุติ" การก่อความไม่สงบ เพราะเจตนาของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เป็นกลุ่มโจรปัตตานี
มีอุดมการณ์แน่วแน่ที่จะทำให้เกิดสงครามในที่สุดความเห็นของผู้สันทัดกรณี กล่าวว่า ถ้าจะเปรียบเทียบกัน
ระหว่างการปราบปรามที่ถูกประนามว่า กระทำรุนแรงเกินขอบเขตนั้น ไม่สามารถเทียบได้กับความร้ายกา
จรุนแรง ที่ฝ่ายโจรปัตตานี ได้กระทำต่อข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนตาดำๆ มีคนล้มตายในสภาพ
ศพที่ถูกฆ่าอย่างทารุณ ผิดมนุษย์มะนานับไม่ถ้วน ที่เคยกระทำมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
อีกประการหนึ่ง ถ้าไม่มีโจรปัตตานี ไม่มีการเข่นฆ่า ไม่ก่อกบฏต่อแผ่นดิน เราก็จะไม่มีอะไรให้บาดหมาง
เพราะว่าหัวใจคนไทยที่แท้จริง ไม่ยินยอมให้ศาสนามาแบ่งแยกให้แตกสามัคคีอยู่แล้ว เราจะสามารถอยู่ร่วม
แผ่นดินได้อย่างปกติสุข ต่างคนต่างปฏิบัติตัวปฏิบัติตน ตามความเชื่อถือและความศรัทธาที่แตกต่างกันออกไปโดย
ปกตินั้น ขอบเขตความเชื่อของคนพุทธนั้นไม่มีข้อห้ามไม่ให้ร่วมบุญกับคนศาสนาอื่น คนพุทธหรือชาวพุทธ มีลักษณะที่
"ผ่อนคลาย" ในทุกกรณี คนพุทธสามารถเข้าร่วมบุญได้กับทุกคน ทุกศาสนา ถ้าศาสดานั้นๆ ผ่อนปรนให้เข้าร่วม
ได้ คนพุทธจะเข้าร่วมได้ทันที
ถ้าไม่มีโจรปัตตานี พุทธศาสนากับศาสนาอิสลาม จะอยู่ด้วยกันได้อย่างสันติสุข หรือว่า แม้โจรปัตตานี จะปลุก
ให้คนอิสลามเกลียดพุทธเพียงใด แต่เราก็รู้ว่าศาสนาไม่เกี่ยวเพราะว่าที่แท้จริง...โจรปัตตานีอาศัยศาสนา
เป็นเครื่องมือสงครามต่างหากสักวันหนึ่ง จะมีคนพิสูจน์ให้เห็นว่าศาสนาอิสลามไม่เกี่ยว
พุทธและอิสลาม ไม่เคยเป็นศัตรูของกันและกันกรณี กรือเซะ กับตากใบ...น่าจะเป็นผลพวงความชั่วร้ายที่น่า
ศึกษาเป็นอย่างยิ่ง**** บัดนี้เรื่องที่คุณสอาด จันทร์ดีเขียนขึ้นจากความเป็นจริง ได้เผยโฉมหน้ามาให้เห็นจะจะแล้ว ด้วยแผน
การที่กลุ่มโจร (มี กลุ่มแบ่งแยกดินแดนภาคใต้, มหาธีร์ มูฮัมหมัด - อดีตนายกฯของมาเลเซีย และกลุ่มบงการ
"อัลไคด้า" )ได้ร่วมกันทำแผนจะยึดครองประเทศไทยทั้งประเทศใน ๑๐ ปี เหตุการณ์ที่เขียนนี้เป็นเพียงหนึ่ง
ในหลายๆแผนลวงโลกเพื่อจะ ดิสเครดิสประเทศไทยต่อสังคมโลก ซึ่งแผนการณ์ได้ถูกแฉโดย เอกสาร "แนว
ร่วม คนไทยรักชาติ" ฉบับปฐมฤกษ์ ๑ มกราคม ๒๕๕๐ โดยทีกลุ่มก่อการร้ายที่ กรือเซะ และตากใบ อาจเป็น
ลูกชาวพุทธที่ถูกลักพาตัวเมือ ๓๙ ปีก่อน ถูกนำไปเลี้ยง และฝีกก่อการร้ายมาฆ่าคนไทยอีกที โดยกล่าวว่า
"จำไว้ ให้คนของมันฆ่าฟันกันเอง"
อันนั้นได้แก่กรณี กรือเซะ และตากใบ
หนังสือเล่มนี้จะยังไม่เขียนถึงรายละเอียดของปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะมันจะนำไปสู่ข้อขัดแย้งมากขึ้น มากกว่าจะ
เป็นผลดี ผมจะสรุปเพียงสั้นๆว่า เมื่อเกิดการปล้นปีนค่ายทหารพัฒนา อำเภอเจาะไอร้อง...๔ มกราคม ๒๕๔๗
ทำให้สถานที่ราชการที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ร้อนระอุขึ้นมา
เมื่อมีกลุ่มผู้ไม่หวังดี บุกโจมตีเจ้าหน้าที่แล้วหนีเข้าไปหลบซ่อนตัวในสุเหร่ากรือเซะ ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ทหารยกกำลังตามเข้าไปล้อมเอาไว้จนเกือบค่ำทำให้ทหารวิตกว่า ถ้าปล่อยให้ตะวันตกดิน สถานการณ์จะพลิก
ผันอย่างแน่นอน ทหารจึงบุกเข้าจับ แล้วเกิดยิงกันขึ้น ทำให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีถูกจับตายเรียบในสุเหร่า
มันได้กลายเป็นบาดแผลร้ายกาจบาดหมางใจ กินใจกันรุนแรงอีกคำรบหนึ่ง
ได้เกิดวิพากย์วิจารณ์ และตำหนิติเตียนในสื่อและสังคมการเมืองของประเทศไทยว่า "ทหารทำรุนแรงเกินเหตุ"
ผู้สันทัดกรณีกล่าวว่า กลุ่มผู้ไม่หวังดี ได้กระทำรุนแรง เข่นฆ่าผู้คนอย่างไร้ความปราณี เมือทหาร ตำรวจเข้า
ไประงับเหตุ กลุ่มผู้ไม่หวังดี ไม่ยินยอมให้จับกุม เมื่อเป็นเช่นนี้ ทางออกสุดท้ายจึงต้องเป็นเช่นนี้ ถ้า
ไม่ปฏิบัติเช่นนี้ จะให้ทำอย่างไรเช่นเดียวกัน กรณีตากใบ ก็ไม่แตกต่างจากกรณีอื่น
ทหาร ตำรวจ ไม่มีทางออกอื่นใดที่จะทำให้เหตุการณ์สงบลงได้ วิธีแก้คือต้องจับกุมคุมตัวผู้ก่อความไม่สงบ เพื่อ
จะเอาไปสอบสวน แต่ได้เกิดความผิดพลาดขึ้นมา ทำให้มีคนขาดอากาศหายใจ ล้มตายลงเป็นจำนวนมาก ในที่
สุดก็มีคนรุมประนามทหาร
ผู้สันทัดกรณีกล่าวว่า แม้ทหาร ตำรวจ จะพยายามทำแบบอะลุ้มอะล่วย หรือกระทำอย่างเฉียบขาดรุนแรงก็ตาม
ก็ไม่อาจทำให้กลุ่มผู้ไม่หวังดี "ยุติ" การก่อความไม่สงบ เพราะเจตนาของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เป็นกลุ่มโจรปัตตานี
มีอุดมการณ์แน่วแน่ที่จะทำให้เกิดสงครามในที่สุดความเห็นของผู้สันทัดกรณี กล่าวว่า ถ้าจะเปรียบเทียบกัน
ระหว่างการปราบปรามที่ถูกประนามว่า กระทำรุนแรงเกินขอบเขตนั้น ไม่สามารถเทียบได้กับความร้ายกา
จรุนแรง ที่ฝ่ายโจรปัตตานี ได้กระทำต่อข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนตาดำๆ มีคนล้มตายในสภาพ
ศพที่ถูกฆ่าอย่างทารุณ ผิดมนุษย์มะนานับไม่ถ้วน ที่เคยกระทำมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
อีกประการหนึ่ง ถ้าไม่มีโจรปัตตานี ไม่มีการเข่นฆ่า ไม่ก่อกบฏต่อแผ่นดิน เราก็จะไม่มีอะไรให้บาดหมาง
เพราะว่าหัวใจคนไทยที่แท้จริง ไม่ยินยอมให้ศาสนามาแบ่งแยกให้แตกสามัคคีอยู่แล้ว เราจะสามารถอยู่ร่วม
แผ่นดินได้อย่างปกติสุข ต่างคนต่างปฏิบัติตัวปฏิบัติตน ตามความเชื่อถือและความศรัทธาที่แตกต่างกันออกไปโดย
ปกตินั้น ขอบเขตความเชื่อของคนพุทธนั้นไม่มีข้อห้ามไม่ให้ร่วมบุญกับคนศาสนาอื่น คนพุทธหรือชาวพุทธ มีลักษณะที่
"ผ่อนคลาย" ในทุกกรณี คนพุทธสามารถเข้าร่วมบุญได้กับทุกคน ทุกศาสนา ถ้าศาสดานั้นๆ ผ่อนปรนให้เข้าร่วม
ได้ คนพุทธจะเข้าร่วมได้ทันที
ถ้าไม่มีโจรปัตตานี พุทธศาสนากับศาสนาอิสลาม จะอยู่ด้วยกันได้อย่างสันติสุข หรือว่า แม้โจรปัตตานี จะปลุก
ให้คนอิสลามเกลียดพุทธเพียงใด แต่เราก็รู้ว่าศาสนาไม่เกี่ยวเพราะว่าที่แท้จริง...โจรปัตตานีอาศัยศาสนา
เป็นเครื่องมือสงครามต่างหากสักวันหนึ่ง จะมีคนพิสูจน์ให้เห็นว่าศาสนาอิสลามไม่เกี่ยว
พุทธและอิสลาม ไม่เคยเป็นศัตรูของกันและกันกรณี กรือเซะ กับตากใบ...น่าจะเป็นผลพวงความชั่วร้ายที่น่า
ศึกษาเป็นอย่างยิ่ง**** บัดนี้เรื่องที่คุณสอาด จันทร์ดีเขียนขึ้นจากความเป็นจริง ได้เผยโฉมหน้ามาให้เห็นจะจะแล้ว ด้วยแผน
การที่กลุ่มโจร (มี กลุ่มแบ่งแยกดินแดนภาคใต้, มหาธีร์ มูฮัมหมัด - อดีตนายกฯของมาเลเซีย และกลุ่มบงการ
"อัลไคด้า" )ได้ร่วมกันทำแผนจะยึดครองประเทศไทยทั้งประเทศใน ๑๐ ปี เหตุการณ์ที่เขียนนี้เป็นเพียงหนึ่ง
ในหลายๆแผนลวงโลกเพื่อจะ ดิสเครดิสประเทศไทยต่อสังคมโลก ซึ่งแผนการณ์ได้ถูกแฉโดย เอกสาร "แนว
ร่วม คนไทยรักชาติ" ฉบับปฐมฤกษ์ ๑ มกราคม ๒๕๕๐ โดยทีกลุ่มก่อการร้ายที่ กรือเซะ และตากใบ อาจเป็น
ลูกชาวพุทธที่ถูกลักพาตัวเมือ ๓๙ ปีก่อน ถูกนำไปเลี้ยง และฝีกก่อการร้ายมาฆ่าคนไทยอีกที โดยกล่าวว่า
"จำไว้ ให้คนของมันฆ่าฟันกันเอง"
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)